Sun on fog: เชียงราย
3 วัน 2 คืน ดอยวาวี ดอยช้าง ผาหมี ผาฮี้

เชียงราย – ทริปพิเศษสุดประทับใจ ที่ต้องไปสักครั้ง

หากคุณกำลังมองหาทริป ที่เต็มไปด้วยความงดงาม ของธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม และกลิ่นอายของขุนเขา เชียงราย คือจุดหมาย ที่ไม่ควรพลาด โปรแกรมพิเศษจาก เจซีทัวร์ ได้รวบรวมทุก Destination สำคัญ ที่ทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น ถนนคนเดินเชียงราย ที่เต็มไปด้วยของพื้นเมือง และบรรยากาศสุดชิล วัดร่องขุ่น ศิลปะอันวิจิตรตระการตา โดยอาจารย์เฉลิมชัย วัดห้วยปลากั้ง และ วัดร่องเสือเต้น กับสถาปัตยกรรมแปลกตา ไม่เหมือนใคร รวมไปถึง บ้านดำ อาณาจักรศิลปะ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และถ้าคุณชอบความเงียบสงบ ของขุนเขา ดอยผาฮี้ และ ดอยผาหมี คือจุดเช็คอิน ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ ไม่ได้มีแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังมีกาแฟสดหอมกรุ่น รสชาติเยี่ยม ให้คุณได้ลิ้มลอง

แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้น คือการเดินทาง ปยังอ้อมกอดของขุนเขา ที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอก เชียงราย... คิดถึงหมอก คิดถึงไร่ชา ไร่กาแฟ ที่สุดของความฟิน กับทริปที่รวมเอา ยอดดอยอันเลื่องชื่อ ดอยช้าง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "กษัตริย์แห่งดอยกาแฟ" และ ดอยวาวี ที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ราชินีแห่งดอยชา" ได้สัมผัสกับ กระบวนการปลูก และแปรรูปชาคุณภาพเยี่ยม พร้อมจิบชาอุ่น ๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ก่อนจะพักผ่อนบน ดอยเลาลีย์ ดอยส่วนตัวที่เงียบสงบ และตื่นขึ้นมา พบกับช่วงเวลามหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ "Sun over the Fog" ดวงอาทิตย์ ลอยขึ้นจากทะเลหมอก ส่องแสงสีทอง อาบไล้ยอดดอย ราวกับภาพฝัน สัมผัสลมหนาว สูดอากาศบริสุทธิ์ และเก็บภาพบรรยากาศ ที่งดงาม แบบหาที่ไหนไม่ได้

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดื่มด่ำกับเสน่ห์ของเชียงราย กับเจซีทัวร์กันเถอะ

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

ดอยผาฮี้ + ดอยผาหมี

"สายหมอกโอบขุนเขา"

เสียงเครื่องยนต์ของรถกระบะ ที่ไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ บนทางคดเคี้ยวเงียบลง เมื่อถึงจุดหมาย เสียงลมหายใจลึก ของนักเดินทางสองคน ดังกว่าคำพูดใด ๆ พวกเขาก้าวลงจากรถ ทอดสายตาไปยังหมอก ที่กำลังโอบกอดภูเขา ไว้อย่างอ่อนโยน

"นี่เหรอ... ดอยผาฮี้" ชายหนุ่มสูดอากาศเข้าเต็มปอด ลมหายใจที่ออกมา เป็นไอขาวในอากาศหนาวเย็น แม้จะเป็นต้นฤดูร้อน แต่ที่นี่ กลับเย็นกว่าที่คิดไว้มาก

หญิงสาวยืนเคียงข้างเขา ดวงตาสะท้อนความตื่นเต้น "หมอกแบบนี้มีทั้งวันเลยเหรอ?"

"ใช่" ชาวเขาคนหนึ่ง ที่ยืนรอต้อนรับพวกเขายิ้มบาง ๆ "ไม่ว่าจะฤดูไหน หมอกก็อยู่กับเราเสมอ"

สายลมพัดเอื่อย พัดกลิ่นหอมบางเบาของดอกไม้ป่า เจือปนมากับไอหมอก หญิงสาวกอดตัวเองเบา ๆ "อากาศหนาวจัง"

ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ พลางยื่นมือ ไปสัมผัสอากาศรอบตัว "นี่สิ เมืองหนาวของจริง"

เจ้าบ้านพาทั้งสอง เดินขึ้นไปยังร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่ริมผา โต๊ะไม้ตัวหนึ่ง มองออกไปเห็นวิวของขุนเขา ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สลับไปมากับม่านหมอก

"เชิญลองกาแฟของเราครับ" เจ้าของร้านยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

เมื่อกาแฟถ้วยแรกถูกเสิร์ฟ กลิ่นหอมเข้มของเมล็ดกาแฟคั่วบดสด ๆ ลอยขึ้นแตะจมูก หญิงสาวยกถ้วยขึ้นจิบเบา ๆ ก่อนหลับตาพริ้ม "หอมมาก... แล้วก็ขมนิด ๆ แต่กลมกล่อม"

"ที่นี่ปลูกเอง คั่วเอง สดใหม่ทุกวัน" เจ้าของร้านเล่า พลางชี้ไปยังไร่กาแฟ ที่แทรกตัวอยู่บนลาดเขา

ชายหนุ่มพยักหน้าช้า ๆ ยิ้มพลางมองไปที่วิวเบื้องหน้า "วิวแบบนี้... กาแฟแบบนี้... โคตรคุ้มค่าจริง ๆ"

สายหมอก ยังคงทอดผ่านขุนเขา ไม่มีช่วงเวลา ที่ไม่สวยงามของดอยผาฮี้ และดอยผาหมี ไม่มีฤดูที่ทำให้มนต์เสน่ห์ของที่นี่ ลดลง มีแต่สายลมเย็น หมอกขาว และกลิ่นหอมของดิน และกาแฟ ที่ทำให้หัวใจของผู้มาเยือน อบอุ่นทุกครั้ง

Black Art Village บ้านดำ

"หมู่บ้านดำ 39 หลัง: ศิลปะที่เข้าถึงใจ ไม่ต้องมีตำรา"

หากเอ่ยถึง “บ้านดำ” หลายคนอาจนึกถึง งานศิลปะที่เข้าถึงยาก เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ลึกซึ้ง เกินความเข้าใจ ของคนทั่วไป แต่ความจริงแล้ว "หมู่บ้านดำ 39 หลัง" คืออาณาจักรแห่งศิลปะ ที่เปิดกว้างให้ทุกคน สัมผัสได้ โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน ทางศิลปะมาก่อน ที่นี่คืองานสร้างสรรค์ ของ ถวัลย์ ดัชนี ปรมาจารย์ศิลปะระดับโลก ผู้ฝากผลงาน ที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทย และความลุ่มลึก ของจิตวิญญาณมนุษย์ ไว้ในทุกองค์ประกอบ หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์ เพราะมันคือ “ชีวิต” ที่ศิลปินได้รังสรรค์ขึ้น บ้านแต่ละหลัง คือบทกวีแห่งเส้นสาย สีสัน และวัสดุพื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็นไม้แกะสลัก กระดูกสัตว์ หรือเครื่องโลหะ ที่ถ่ายทอดพลัง และเรื่องราวเหนือกาลเวลา

การเดินชมบ้านดำ ไม่ใช่เพียงแค่ การดูงานศิลปะ แต่คือ "การเสพย์ศิลป์ ด้วยทุกประสาทสัมผัส" ลมหายใจแรก ที่ก้าวเข้าสู่หมู่บ้านดำ คือความขรึมขลัง ของโทนสีดำ ที่โอบล้อม ความเงียบสงบ ที่ทำให้เสียงหัวใจของผู้ชม ดังกว่าปกติ ทุกมุมของพื้นที่ คือการเล่าเรื่องผ่านศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น รูปปั้นสัตว์ในตำนาน หน้ากากไม้แกะสลัก หรือเส้นสาย ที่แฝงไว้ซึ่งพลังดิบ แบบโบราณ บางคนอาจรู้สึกเหมือน หลุดเข้าไปในอีกมิติ ที่ผสานความศักดิ์สิทธิ์ และความลึกลับ ไว้ในคราวเดียว แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึก “สนุก” ไปกับการค้นพบ รายละเอียดใหม่ ๆ ในทุกมุม ทุกซอก ทุกเหลี่ยมของงานศิลป์ ที่ไม่ต้องการคำอธิบาย หากแต่ใช้ “ความรู้สึก” ในการเข้าใจแทน

วัดร่องเสือเต้น

"วัดร่องเสือเต้น: อัญมณีสีฟ้าแห่งศรัทธา"

กลางเมืองเชียงราย มีวัดหนึ่ง ที่เปล่งประกาย ราวอัญมณีต้องแสงแดด “วัดร่องเสือเต้น” วัดพุทธศิลป์ร่วมสมัย ที่โดดเด่นด้วยสีน้ำเงินเข้ม อันงดงาม เปรียบดั่ง Blue Sapphire แห่งล้านนา วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น บนพื้นฐาน ของสถาปัตยกรรมล้านนา แต่แตกต่าง ด้วยโทนสีที่สะกดสายตา ศิลปินผู้ออกแบบ พุทธา กาบแก้ว ศิษย์ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้หลอมรวมเอกลักษณ์ แบบล้านนาเข้ากับศิลปะแห่งยุคใหม่ ทำให้วัดแห่งนี้ เป็นมากกว่าสถานที่สักการะ หากแต่เป็นงานศิลปะที่มีชีวิต ทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่พระอุโบสถสูงตระหง่าน ประติมากรรมพญานาค อันวิจิตร ไปจนถึงลวดลายแกะสลัก ที่แฝงความหมายลึกซึ้ง ล้วนบรรจงสร้างขึ้น เพื่อให้ผู้มาเยือน ได้สัมผัสถึงพลังแห่งความศรัทธา และความวิจิตร อันเป็นนิรันดร์

เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในวัด ความรู้สึกแรกคือ ความสงบที่แผ่ซ่านไปทั่ว พระประธานองค์ใหญ่สีขาวบริสุทธิ์ ตั้งตระหง่าน กลางโถงสีน้ำเงินเข้ม เปรียบดั่งดวงจันทร์ ที่ลอยเด่นท่ามกลางฟ้าราตรี ผนังและเพดาน วาดลวดลายเรื่องราวพุทธศาสนา ด้วยสีฟ้า ไล่เฉดราวแสงสะท้อน จากอัญมณีล้ำค่า เสริมให้ผู้ชม รู้สึกดื่มด่ำราวต้องมนต์ เสียงสวดมนต์แว่วเบา ๆ ผสานกับแสงอาทิตย์ ที่ลอดผ่านกระจกสี ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ และศรัทธาอย่างลึกซึ้ง วัดร่องเสือเต้น จึงไม่ใช่เพียงวัด แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งศิลปะ ความเชื่อ และความงาม อันไร้กาลเวลา ที่ตรึงอยู่ในความทรงจำ ของทุกผู้ที่มาเยือน

วัดห้วยปลากั้ง

"วัดห้วยปลากั้ง: ดินแดนแห่งศรัทธาและความสงบเหนือขุนเขา"

เหนือเนินเขาของเชียงราย มีสถานที่หนึ่ง ที่แผ่กระจายบรรยากาศ แห่งบุญกุศลและศรัทธา ไปทั่วทุกอณู นั่นคือ วัดห้วยปลากั้ง วัดพุทธ ที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลัง และความงดงามทางศิลปะ จีน-ล้านนา ไฮไลต์ของที่นี่คือ พระโพธิสัตว์กวนอิมสีขาวมุก องค์มหึมา ตั้งตระหง่านสูงถึง 69 เมตร เหนือผืนดินสีเขียวขจี ของขุนเขาเชียงราย องค์พระแม่กวนอิม ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารโอ่อ่า รายล้อมด้วยบรรยากาศเงียบสงบ และสายลมที่พัดผ่าน เหมือนเสียงกระซิบ ของธรรมชาติ เชื่อกันว่า หากมากราบไหว้ขอพรที่นี่ จะได้รับพรแห่งเมตตา ความโชคดี และความสุขในชีวิต

ไม่ไกลจากองค์พระแม่กวนอิม คือ เจดีย์พบโชคเก้าชั้น สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสมผสานกลิ่นอายของพุทธศิลป์ จีนและล้านนา ได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไป สู่ยอดเจดีย์ เพื่อชมวิวพาโนรามาของเมืองเชียงราย ที่สวยงามเกินบรรยาย เสียงระฆังลม ที่กระทบกันเบา ๆ ยามสายลมพัดผ่าน สร้างบรรยากาศแห่งความสงบ และศรัทธา ที่อบอวล อยู่ในใจผู้มาเยือน วัดห้วยปลากั้ง จึงไม่ใช่เพียงสถานที่ทางศาสนา แต่เป็นจุดหมายแห่งจิตวิญญาณ ที่ผู้มาเชียงราย ไม่ควรพลาดสัมผัส

ดอยช้าง + ดอยวาวี + ดอยเลาลี และ Sun over the Fog View

"4 ดอยแห่งเชียงราย: เส้นทางแห่งชา กาแฟ หมอก และแสงแรกของวัน"

เส้นทางสายนี้ คือการเดินทางที่ “ขาดกันไม่ได้” เพราะแต่ละดอย ล้วนเป็นจิ๊กซอว์ที่เติมเต็ม ภาพของธรรมชาติ และวิถีชีวิตแห่งขุนเขา เชียงราย เริ่มต้นที่ ดอยวาวี ดินแดนแห่งไร่ชา เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา อากาศเย็นสดชื่นตลอดปี ที่นี่เป็นแหล่งปลูกชาชั้นเลิศของไทย โดยเฉพาะชาอู่หลง และชาหอมหมื่นลี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ชมไร่ชา ลองเก็บใบชา หรือจิบชาร้อน ๆ พร้อมชมวิวหมอก คลอเคลียยอดเขา จากนั้นเส้นทางนำไปสู่ ดอยช้าง ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “กาแฟดอยช้าง” อันเลื่องชื่อ ไร่กาแฟอาราบิก้า คุณภาพระดับโลก กระจายตัวอยู่ทั่วเนินเขา พร้อมจุดชมวิว ที่มองออกไปเห็นภูเขา ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ในยามเช้า นักเดินทาง สามารถสัมผัสประสบการณ์ การดื่มกาแฟสด ที่ปลูกและคั่วเองจากไร่ พร้อมรับไออุ่น ของแสงแดดยามสาย

แต่หากพูดถึง จุดชมวิว ที่เป็นไฮไลต์ของทริปนี้ "ดอยกาดผี" คือจุดหมาย ที่ตราตรึงใจที่สุด และเป็นที่มาของชื่อทริป “Sun Over the Fog” เพราะที่นี่ นักเดินทางจะได้สัมผัส พระอาทิตย์ขึ้น เหนือน่านฟ้าทะเลหมอก ภาพของดวงอาทิตย์สีทอง ที่สาดแสงลงบนม่านหมอกหนา ทำให้ทั้งขุนเขา ดูราวกับลอยอยู่เหนือเมฆ เป็นภาพที่งดงาม ราวกับฉากในฝัน ปิดท้ายด้วย ดอยเลาลี จุดพักแรม ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การนอนหลับใต้แสงดาว หลังจากการเดินทาง อันยาวนาน เส้นทางแห่ง 4 ดอยนี้ ไม่เพียงแต่นำพาผู้คน ไปพบกับธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังเป็นการเดินทาง ที่หล่อหลอมประสบการณ์ วิถีชีวิต และมนต์เสน่ห์ของดินแดนเหนือ ที่ไม่มีวันลืม

	โปนแกรม "Sun on Fog"
	วันที่ 1: เชียงราย 08:00 น. เริ่มต้นการเดินทาง อย่างสะดวกสบาย ด้วยรถส่วนตัว จาก JC Tour พร้อมคนขับมืออาชีพ และไกด์ ที่ให้บริการอย่างอบอุ่น รับท่านจากสนามบินเชียงราย (แนะนำให้เลือกไฟลท์เช้า เพื่อเที่ยวได้เต็มวัน) หลังจากลงเครื่อง เราจะพาท่านไปรับประทานอาหารเช้า เติมพลังสำหรับการเดินทางตลอดวัน Morning: เสพงานศิลป์ที่บ้านดำ 09:00 น. เดินทางถึง บ้านดำ หรือที่เรียกว่า “หมู่บ้านดำ” สถานที่รวบรวมผลงานศิลปะกว่า 30 หลังของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินระดับโลกของไทย เพลิดเพลินไปกับการเสพงานศิลป์ ในบรรยากาศที่ผสมผสาน ศิลปะและวัฒนธรรมล้านนา ได้อย่างลึกซึ้ง 11:00 น. เยี่ยมชม พระธาตุดอยวาว วัดเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ของแม่สาย กราบนมัสการ เพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมชมวิวเมืองเชียงราย จากมุมสูง Afternoon: ดื่มด่ำวิวสวยและวัฒนธรรมชาวเขา 12:00 น. เดินทางถึง ดอยผาหมี หนึ่งในจุดชมวิว ที่สวยงามของเชียงราย พักรับประทานอาหารกลางวันที่ "ภัตตาคารวิวสวย" พร้อมอิ่มอร่อยไปกับ อาหารท้องถิ่น ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย 13:00 น. เดินย่อยอาหาร พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของ หมู่บ้านผาหมี หมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อันงดงาม 14:00 น. เดินทางต่อไปยัง ดอยผาฮี้ จุดหมายปลายทางยอดฮิต ของเชียงราย แวะเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ชาและกาแฟ ระดับโลก แวะพักจิบกาแฟสดหอมกรุ่น ที่ร้านดัง "ใต้ร่ม ชมวิว ชิวกาแฟ แลภูผา" ซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของเชียงราย จากนั้น ออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดินชม หมู่บ้านชนเผ่าชาวเขา และชาวจีนยูนนาน สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย   Evening: กลับสู่เมืองเชียงราย และดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืน 16:00 น. เดินทางกลับสู่ตัวเมืองเชียงราย 17:00 น. เช็คอินเข้าพักที่ Le-Meridien Hotel รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว ริมแม่น้ำกก ที่ให้บรรยากาศเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว 18:30 น. รถรับท่านออกไปดินเนอร์ ที่ Walking Street เพลิดเพลินกับบรรยากาศ ตลาดคนเดินเชียงราย ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และสัมผัสวัฒนธรรมเมืองเหนือ 20:00 น. กลับที่พัก พักผ่อนในบรรยากาศสุดแสนผ่อนคลาย ที่ Le-Meridien Hotel พร้อมเตรียมตัว สำหรับการผจญภัยในวันถัดไป   Day 1 Summary: ศิลปะ | วัดวาอาราม | ธรรมชาติ | หมู่บ้านชาวเขา | กาแฟดอย | ตลาดคนเดิน | ที่พักหรูริมแม่น้ำกก วันที่ 2:   08:00 น. รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศเช้า ของเชียงราย เติมพลังให้เต็มที่ ก่อนออกเดินทางสู่จุดหมายแรกของวัน 09:00 น. เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ออกเดินทางสู่สถานที่สำคัญ ที่ไม่ควรพลาด 09:30 น. วัดร่องเสือเต้น หนึ่งในอัญมณีแห่งเชียงราย วัดที่เปล่งประกาย ด้วยสถาปัตยกรรมสีน้ำเงินเข้ม ดุจบลูแซฟไฟร์ ภายในวิหารสวยงามจับตา องค์พระประธานวิจิตรอลังการ เป็นความภาคภูมิใจ ของชาวเชียงราย ที่ต้องมาเยือนสักครั้ง 10:30 น. วัดห้วยปลากั้ง ดินแดนแห่งศรัทธา และศิลปะที่งดงาม นมัสการเจ้าแม่กวนอิม ที่ประดิษฐานอยู่ใน เจดีย์พบโชคธรรม 9 ชั้น ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด เพื่อชมปูนปั้น ที่สะท้อนแนวคิด การทำความดี และมองวิวเมืองเชียงราย ผ่านดวงตาขององค์พระแม่กวนอิม ขนาดใหญ่ 11:30 น. วัดร่องขุ่น ศิลปะสีขาวที่สะกดสายตาทุกคู่ ผลงานระดับโลก ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สะท้อนแนวคิดเรื่องธรรมะ และปรัชญาชีวิต ผ่านลวดลาย และสถาปัตยกรรมที่ละเอียดอ่อน ทุกมุมของวัด เปี่ยมด้วยความหมาย แฝงแง่คิดทางพุทธศาสนา 12:30 น. รับประทานอาหารกลางวัน อิ่มอร่อยกับอาหารเหนือแท้ ๆ รสชาติละมุน พร้อมลิ้มลองเมนูพิเศษ ที่หาทานได้เฉพาะในท้องถิ่น 14:00 น. ออกเดินทางสู่ดอยวาวี จุดหมายปลายทาง ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ และวัฒนธรรม 15:30 น. พระธาตุวาวี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนดอย นมัสการพระธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมวิวของหมู่บ้านวาวี ที่เงียบสงบ และสวยงาม 16:00 น. ไร่ชาแห่งดอยวาวี สถานที่ผลิตชาอู่หลงชั้นเลิศ ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก เรียนรู้กระบวนการผลิตชา จากต้นตำรับ ชิมชาฟรี พร้อมซึมซับกลิ่นหอม ของใบชาอ่อน ที่เพิ่งเก็บสด ๆ จากไร่ 16:30 น. ต้นชาพันปี ต้นชาโบราณ ที่สูงตระหง่านกว่า 20 เมตร วัดรอบลำต้นได้ถึง 150 ซม. สัมผัสใบชา จากต้นพันปี และลองลิ้มรสเมี่ยงใบชา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 17:00 น. หมู่บ้านวาวี หมู่บ้านที่มีชนเผ่ากว่า 13 เผ่าอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ทุกเผ่ามีวัฒนธรรม ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย ภาษา และวิถีชีวิต เป็นเสน่ห์ที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ น่าหลงใหล และเต็มไปด้วยสีสัน 18:00 น. เดินทางถึงที่พัก Loaw Lee Resort รีสอร์ต ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยเลาลี รายล้อมด้วยทะเลหมอก และวิวเขียวขจีของดอยวาวี และดอยช้าง บรรยากาศเงียบสงบ มองเห็นวิวภูเขา แบบพาโนรามา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง ของเชียงราย 18:30 น. รับประทานอาหารค่ำ สไตล์จีนยูนนาน เมนูพิเศษ ที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่บนดอย รสชาติกลมกล่อม และอิ่มท้องไปกับมื้อเย็น ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ของขุนเขา 20:00 น. พักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ ของที่พัก ปิดท้ายวัน ด้วยการนั่งชมดาวบนฟ้าใส เพลิดเพลินกับความเงียบสงบ ของดอยเลาลี ก่อนจะเข้านอน เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง ในวันถัดไป วันที่ 3:   05:00 น. ตื่นเช้าพร้อมสัมผัสอากาศเย็นสดชื่น จะมีเจ้าหน้าที่มาปลุกเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง 05:30 น. ออกเดินทางโดยรถ 4x4 สู่ ยอดดอยกาดผี จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามเหนือทะเลหมอก 06:00 น. ถึงยอดดอยกาดผี ทะเลหมอกปกคลุมหุบเขา ลมเย็นพัดผ่านเบา ๆ ท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นยะเยือก แสงแรกของวันค่อย ๆ ทอดผ่านไอหมอก ก่อให้เกิดภาพที่สมบูรณ์แบบราวกับฉากในภาพยนตร์ เผลอฮัมเพลง "What a Wonderful World" ออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ากับการตื่นเช้าจริง ๆ 08:00 น. เดินทางกลับลงสู่รีสอร์ต Loaw Lee Resort ก่อนรับประทานอาหารเช้า แนะนำให้เดินชมวิวรอบรีสอร์ต ท้องฟ้าสีทองอ่อน ๆ ทอดแสงลงบนไร่ชา ไอหมอกบาง ๆ ค่อย ๆ ลอยขึ้นจากยอดใบชา สร้างภาพบรรยากาศที่สวยงามจนต้องหยุดหายใจชั่วขณะ 08:30 น. รับประทานอาหารเช้า ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบ 09:00 น. เช็คเอาท์ เตรียมออกเดินทางสู่ ดอยช้าง 10:00 น. ถึง ศูนย์พัฒนาเกษตรดอยช้าง จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของพื้นที่แห่งนี้ จาก อดีตแหล่งปลูกฝิ่น สู่ อาณาจักรกาแฟอาราบิก้าระดับโลก ชาวเขาเผ่าอาข่าและลีซอเปลี่ยนจากการปลูกฝิ่นเป็นการปลูกกาแฟ ทำให้ดอยช้างกลายเป็นศูนย์กลางกาแฟชั้นเยี่ยมของไทย 10:30 น. เดินชม สวนดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณ 12:00 น. แวะพักเหนื่อยที่ ดอยช้างวิว สัมผัสมุมมองจากจุดชมวิวสูงสุดของดอยช้าง อากาศเย็นสบาย รายล้อมด้วยขุนเขาและไร่กาแฟ รับประทานอาหารกลางวัน มื้อพิเศษเสิร์ฟพร้อมกาแฟอาราบิก้ารสเยี่ยมจากดอยช้าง 13:00 น. ออกเดินทางไปยัง พุทธอุทยาน 13:30 น. เดินสำรวจ พุทธอุทยาน – เส้นทางเดินที่ไม่เหนื่อย แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้น พญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่นี่มีต้นพญาเสือโคร่งมากที่สุดในประเทศไทย มากถึง 40,000 ต้น สร้างอุโมงค์สีชมพูสวยงามสุดลูกหูลูกตา ครึ่งแรกของเส้นทางเดิน ผ่าน พุทธอุทยาน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่า หากใครมีเรื่องไม่สบายใจ เมื่อเดินเข้ามาที่นี่ ความขุ่นข้องหมองใจจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง เดินต่อจนถึง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ – น้ำจากบ่อนี้ถูกใช้ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและพุทธมังคลาภิเษก เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยความสงบและพลังแห่งศรัทธา 14:00 น. ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินเชียงราย 15:30 น. แวะร้านของฝากเชียงราย เลือกซื้อของฝากกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นชาอู่หลง กาแฟดอยช้าง หรือขนมพื้นเมือง 17:00 น. ถึงสนามบินเชียงราย ตรงเวลาตามหลักมาตรฐาน (ก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง) แนะนำให้จองไฟลท์ช่วงค่ำเพื่อมีเวลาท่องเที่ยวเพิ่มเติมก่อนเดินทางกลับ หากมีเวลาสามารถแวะเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงได้อีกก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่อง

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา: “ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 13,500 บาท/ท่าน (Double Room) เด็ก 10,500 บาท/ท่าน (อายุ 3-10ขวบ)

ราคาแพ็คเกจ รวม:

• รถ Private พร้อมคนขับ ที่ได้รับการอบรมด้านการบริการอย่างดีเยี่ยม
• โรงแรมที่พัก คืนแรกที่ Le-Meridian เชียงราย
• รีสอร์ทที่พัก บนดอย Loaw Lee Resort
• รถพร้อมคนขับ Stand By 24 ชั่วโมง
• ค่าผ่านเข้าเยี่ยมชม ทุกที่ตาม Program
• อาหารทุกมื้อ
• ประกัน นักท่องเที่ยว

คืนแรก Le-Meridien เชียงราย

เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ทระดับ 5 ดาว ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อน เหนือระดับ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกก โดดเด่นด้วยบรรยากาศเงียบสงบ และการออกแบบ ที่ผสมผสานศิลปะล้านนา เข้ากับความหรูหรา สมัยใหม่ ห้องพักกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน และครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สุดพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ที่ ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับช่วงเวลา แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง

คืนแรกในเชียงรายของเรา ผ่านไปอย่างสมบูรณ์แบบ กับการเข้าพักที่นี่ ทุกช่วงเวลาถูกเติมเต็มด้วย บรรยากาศอันรื่นรมย์ ไม่ว่าจะเป็น การจิบกาแฟยามเช้าริมแม่น้ำกก หรือการแช่ตัวในสระว่ายน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ นี่คือจุดหมายปลายทาง ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับวันหยุดสุดพิเศษ ที่ทำให้ทุกวินาที มีคุณค่าอย่างแท้จริง

เลาย์ลี รีสอร์ท

เลาลีย์ รีสอร์ท ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอด ของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ท่ามกลางสายหมอกบางเบา และสายลมเย็น ที่พัดผ่านเบา ๆ ตลอดวัน ล้อมรอบด้วยไร่ชาเขียวขจี สวนดอกไม้หลากสี และแนวต้นไม้สูงใหญ่ ที่ให้ความรู้สึก เหมือนหลุดเข้าไป ในมิติแห่งความสงบ เงียบสงัด และเป็นส่วนตัว รีสอร์ทแห่งนี้ เปรียบเสมือนโลกใบเล็ก ที่ซ่อนเร้นจากความวุ่นวาย ให้ผู้มาเยือน ได้สัมผัสความงดงาม ของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

ค่ำคืนที่เลาลีย์ รีสอร์ท เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของป่าเขา และความเงียบสงบใต้แสงดาว เสียงแมลงกลางคืน ขับขาน คลอเคลียไปกับสายลม ทำให้ทุกอารมณ์ผ่อนคลาย ไร้กังวล ไม่ว่าจะเลือกจิบชาอุ่นๆ บนระเบียงส่วนตัว หรือเอนกายใต้ผ้าห่มนุ่ม พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ทุกช่วงเวลา ล้วนเป็นการเติมเต็มพลังชีวิต ให้ความรู้สึกอิสระ และความสุขที่แท้จริง ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างงดงาม

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click