เชียงใหม่ - ทีลอซู
4 คืน 5 วัน

สัมผัสสองอารมณ์แห่งการท่องเที่ยว ทริปสุดพิเศษผ่าน 3 จังหวัด สู่ธรรมชาติ และวัฒนธรรม เหนือระดับ
เตรียมตัวออกเดินทาง สู่สุดยอดเส้นทางท่องเที่ยว ที่ผสานสองอารมณ์แห่งการเดินทาง ธรรมชาติสุดขั้ว และวัฒนธรรมสุดลึกซึ้ง ใน 3 จังหวัด ที่งดงามที่สุดของภาคเหนือ และภาคตะวันตกของไทย แพ็คเกจนี้ ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัส ประสบการณ์ที่เหนือระดับ ดื่มด่ำกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ พร้อมซึมซับกลิ่นอายแห่งศิลปะ และอารยธรรมแบบล้านนา นี่ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทาง แต่คือการใช้ความมั่งคั่ง อย่างชาญฉลาด เพื่อเติมเต็มความทรงจำ ตลอดชีวิต
พิชิตน้ำตกทีลอซู – มหัศจรรย์แห่งสายน้ำ ที่ดีที่สุดของไทย
จุดหมายแรกของการเดินทาง คืออำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ น้ำตกทีลอซู น้ำตกที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามที่สุด ในประเทศไทย และได้รับการยกย่องให้เป็น หนึ่งในน้ำตกที่อลังการที่สุดของโลก ด้วยขนาดอันมหึมา และกระแสน้ำที่ไหล ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางป่าดิบชื้น ที่อุดมสมบูรณ์ 100% เส้นทางการเดินทางสู่ทีลอซู อาจจะเข้าถึงยาก แต่ทุกก้าวที่คุณเดินผ่าน ผืนป่าธรรมชาติ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือน กำลังเข้าสู่แดนสวรรค์ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางขุนเขา ระหว่างทาง คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสดชื่น ล่องแก่งตามสายน้ำแม่กลอง และตื่นตาตื่นใจ กับความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ ที่หาได้ยากยิ่ง ในปัจจุบัน
เสริมประสบการณ์ ด้วยเส้นทางแห่งวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมล้านนา
จากอุ้มผาง และแม่สอด ทริปนี้ยังพาคุณไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ ของ เขื่อนภูมิพล เขื่อนคอนกรีตรูปโค้ง ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย พร้อมกับดื่มด่ำ บรรยากาศทะเลสาบอันเงียบสงบ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง จังหวัดลำปาง เพื่อชม พระธาตุจำปาหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่งดงาม เหนือกาลเวลา ต่อจากนั้น คุณจะได้เดินทางสู่ เชียงใหม่ เมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวภาคเหนือ ที่ซึ่งคุณจะได้ดื่มด่ำ กับวัดเก่าแก่ แหล่งศิลปะล้านนา และวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็น การเดินชมถนนนิมมานเหมินท์ ตลาดนัดกลางคืน หรือขึ้นดอยสุเทพ เพื่อชมวิวเหนือเมืองเชียงใหม่ ยามเย็น
ทริปในฝันที่พาคุณ ไปค้นพบประสบการณ์ใหม่ ตลอดเส้นทาง
หากการเดินทาง คือการเติมเต็มชีวิต แพ็คเกจนี้ คือกุญแจ ที่จะเปิดประตู สู่ความทรงจำที่ล้ำค่า ทุกจุดหมายของเส้นทางนี้ ได้รับการคัดสรรมา อย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าคุณจะเป็น นักเดินทางสายธรรมชาติ หรือผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม คุณจะได้สัมผัสกับมิติใหม่ ของการท่องเที่ยว ที่เชื่อมโยงธรรมชาติ และประวัติศาสตร์เข้าด้วยกัน อย่างกลมกลืน ให้คุณได้เปิดมุมมองใหม่ และกลับบ้านพร้อมเรื่องราว ที่น่าประทับใจที่สุดในชีวิต
เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด
"อุ้มผาง"
ดอยหัวหมด – จุดชมทะเลหมอกสุดมหัศจรรย์ของอุ้มผาง
เมื่อพระอาทิตย์ค่อย ๆ ทอแสงขึ้นเหนือขอบฟ้า ดอยหัวหมด หรือดอยหัวมด กลายเป็นเวทีแสดงความงดงามของธรรมชาติ ที่ยากจะหาคำบรรยาย หมอกสีขาวนวล ปกคลุมทั่วหุบเขา สร้างภาพเสมือนทะเลหมอก ที่กว้างสุดสายตา ความงดงามนี้ ปรากฏให้เห็นตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ จนถึงสาย เมื่อแสงแดดเริ่มส่องผ่านม่านหมอก เบื้องหน้าจะค่อย ๆ เผยให้เห็นทิวเขาสลับซับซ้อน และป่าธรรมชาติที่เขียวขจี ราวกับผืนพรมธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้น ดอยหัวหมด ยังขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของดอกไม้ป่า ที่บานสะพรั่งไปทั่ว ทำให้สถานที่แห่งนี้ ไม่เพียงเป็นจุดชมวิวอันสวยงาม แต่ยังเป็นสวรรค์ของผู้รักการถ่ายภาพ และธรรมชาติอีกด้วย แพ็คเกจท่องเที่ยวนี้ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ ของดอยหัวหมดอย่างแน่นอน
ถนนคนเดินอุ้มผาง – เสน่ห์ยามค่ำคืนแห่งเมืองกลางหุบเขา
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เมืองอุ้มผางที่แสนสงบ จะเปลี่ยนเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง ที่มีชีวิตชีวาขึ้น ณ ถนนคนเดินอุ้มผาง ถนนสายเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบท้องถิ่น ร้านค้าริมทางที่เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ที่หาทานได้ยาก เช่น ข้าวเบอะ ของชาวปกาเกอะญอ หรือกาแฟสดจากไร่บนดอย นอกจากนี้ยังมีงานหัตถกรรมท้องถิ่น เสื้อผ้าทอมือ และของที่ระลึกสุดพิเศษ ที่สะท้อนวัฒนธรรมของชุมชน ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่เดินเล่น แต่ยังเป็นโอกาส ให้คุณได้เรียนรู้ และสัมผัสกับวิถีชีวิต ของชาวอุ้มผางอย่างแท้จริง และใครจะรู้? คุณอาจพบกับสิ่งที่ "คลิก" กับใจคุณ ในค่ำคืนนั้น ไม่ว่าจะเป็นของฝากชิ้นโปรด บทสนทนากับคนท้องถิ่น หรือแม้แต่แรงบันดาลใจใหม่ ๆ สำหรับการเดินทาง ครั้งต่อไปของคุณ
น้ำตกทีลอซู - ธรรมชาติ ซ่อนเร้น บริสุทธิ์
ราชันแห่งสายน้ำ: ทีลอซู – อันดับหนึ่งในใจของธรรมชาติ
ม่านหมอกแห่งรุ่งอรุณ ค่อย ๆ คลี่ตัวออก เผยให้เห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เสียงสายน้ำกระทบโขดหิน ดังกังวาน เสมือนเสียงดนตรีของธรรมชาติ ที่บรรเลง ด้วยจังหวะอันสมบูรณ์แบบ ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่บนโขดหินริมลำธาร สายตาของเขาจับจ้องไปยังเบื้องหน้า ที่ซึ่งความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ เผยตัวออกมา ทีลอซู—ราชันแห่งน้ำตก
“นี่มัน…มหัศจรรย์เกินกว่าที่คิดไว้” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากนักเดินทางหนุ่ม ผู้ซึ่งใช้เวลาหลายวัน ฝ่าป่าดิบชื้น เพื่อตามหาความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
“ไม่แปลกใจเลย ที่พวกเขาเรียกที่นี่ว่า King of Waterfalls” ชายผู้เป็นไกด์กล่าว พลางยกมือชี้ไปยังม่านน้ำ ขนาดมหึมา “เจ้าดูดี ๆ นะ ความกว้างของมัน เทียบเท่า สนามฟุตบอลถึงสามสนามรวมกัน และนั่นยังไม่รวมสายน้ำเล็ก ๆ ที่แตกแขนงเป็นม่านน้ำย่อย ไหลลดหลั่นจากหน้าผาสูง ราวกับบันไดสู่สรวงสวรรค์”
นักเดินทางหนุ่มกลืนน้ำลาย มองเห็นละอองน้ำลอยขึ้นจากเบื้องล่าง ต้องแสงอาทิตย์ กลายเป็นรุ้งกินน้ำ ที่ทอดตัวอยู่เหนือป่าเขา “แม้แต่ไอน์สไตน์ยังบอกว่าคำว่า ‘ดีที่สุด’ ขึ้นอยู่กับมุมมอง แต่ฉันว่า ไม่ว่ามองจากมุมไหน น้ำตกนี้ ก็ไม่เคยเป็นแค่อันดับ 6 ของโลก… มันเป็นอันดับหนึ่ง”
ไกด์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองม่านน้ำตก อันยิ่งใหญ่ตรงหน้า “ที่นี่ซ่อนตัวอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์ ทุกอย่างรอบ ๆ น้ำตกยังคงบริสุทธิ์ ไม่มีถนนตัดผ่าน ไม่มีโรงแรมหรูหรา หรือร้านค้าคอยรบกวน ที่นี่เป็นโลกของธรรมชาติล้วน ๆ”
นักเดินทางสูดลมหายใจลึก ซึมซับความสดชื่น ที่รายล้อมอยู่รอบตัว ทีลอซูไม่ได้เป็นเพียงน้ำตก แต่มันเป็นบทกวีของสายน้ำ ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น และเขาได้มาเป็นสักขีพยาน ของความงามที่ไม่มีวันลบเลือน จากความทรงจำ
“ฉันไม่เคยเห็น อะไรที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้มาก่อน” นักเดินทางเอ่ยเบา ๆ
ไกด์เพียงยิ้ม ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า “งั้นก็จงจำความรู้สึกนี้ไว้ให้ดี เพราะสถานที่แห่งนี้… จะเปลี่ยนวิธี ที่เจ้ามองโลกไปตลอดกาล”
ล่องแก่ง - เส้นทางธรรมชาติ
ล่องแพสู่ราชันแห่งน้ำตก – เส้นทางแห่งความบริสุทธิ์ที่ธรรมชาติบรรจงสร้าง
การเดินทางสู่ King of Waterfall – ทีลอซู ไม่ใช่เพียงแค่ การไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่เป็นการดื่มด่ำ กับความงดงามของธรรมชาติ ในทุก ๆ ช่วงเวลา หนึ่งในประสบการณ์ที่ห้ามพลาด คือ การล่องแพผ่านสายน้ำแม่กลอง ที่พาคุณ ไหลไปตามกระแสน้ำอันสงบ ท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี ที่ทอดยาวเป็นฉากหลัง น้ำที่ใสสะอาด สะท้อนแสงแดดยามเช้า เป็นประกายระยิบระยับ บางช่วงของเส้นทาง ยังมีม่านน้ำตกเล็ก ๆ ไหลลงมาจากหน้าผา ให้ได้ชื่นชม นี่ไม่ใช่การล่องแพ แบบโลดโผนผจญภัย แต่เป็นการล่องแพ ที่ให้คุณได้ดื่มด่ำกับความสงบ และความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ อย่างแท้จริง
ด้วยระดับกระแสน้ำ ที่ไหลเอื่อย อยู่ที่ ระดับ 1-2 เท่านั้น การล่องแพเส้นทางนี้ จึงปลอดภัย และเหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก ผู้สูงวัย หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ในแบบสบาย ๆ ตลอดการเดินทาง คุณจะได้ยินเพียงเสียงของน้ำ ที่ไหลผ่านแก่งหิน เสียงนกร้องจากป่าลึก และเสียงลมหายใจของธรรมชาติ ที่บริสุทธิ์รอบตัว นี่คือช่วงเวลา ที่คุณสามารถปล่อยใจ ให้ล่องลอยไปกับธรรมชาติ อย่างแท้จริง ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องกังวล เพียงแค่ซึมซับ ช่วงเวลาอันแสนพิเศษ และเก็บภาพความงดงาม ของสองฝากฝั่งลำน้ำ ที่เปลี่ยนเป็นความทรงจำ ที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต
ถ้ำสีฟ้า - l
ถ้ำน้ำเงิน – อัญมณีแห่งธรรมชาติที่ซ่อนเร้นในแม่สอด
ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา แห่งแม่สอด "ถ้ำน้ำเงิน" เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ไม่อาจละสายตาได้ ด้วยผนังถ้ำ ที่ระยิบระยับไปด้วยหินสีน้ำเงิน เข้มที่เกิดจาก แร่ลาซูไรท์และแทนซาไนท์ อัญมณีล้ำค่า ที่หากปราศจากสิ่งเจือปน ก็จะกลายเป็นหนึ่งในอัญมณี ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แต่ที่นี่กลับเป็นดินแดนแห่งสีสัน และความงดงามเกินคำบรรยาย เพราะนอกจากหินสีน้ำเงินล้ำค่าแล้ว ภายในถ้ำ ยังเต็มไปด้วยหินสีอื่น ๆ ที่ส่องประกายสะท้อนแสงไฟ ราวกับงานศิลปะของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีส้ม สีเขียว หรือสีแสด ที่แต่งแต้มไปทั่วทุกมุมของถ้ำ ระยะทางกว่า 100 เมตรของการสำรวจ คือช่วงเวลา ที่จะพาคุณดื่มด่ำไปกับโลก ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากจินตนาการ
ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นโลกแห่งการค้นพบ และผจญภัย เสน่ห์ของถ้ำน้ำเงิน ดึงดูดนักเดินทาง จากทั่วสารทิศ ให้มาเยือน เพื่อสัมผัสมนต์เสน่ห์ ของหินอัญมณีธรรมชาติ ที่หาได้ยาก ท่ามกลางแสงไฟ ที่สะท้อนประกาย จากหินสีหลากหลาย คุณจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้น ของการสำรวจถ้ำลึกลับ และเสน่ห์ของแร่ธรรมชาติ ที่ส่องประกายระยิบระยับ ทุกย่างก้าวที่เดินเข้าไป นี่คืออีกหนึ่งจุดหมาย ที่รวมอยู่ในแพ็คเกจ การเดินทางสุดพิเศษ และแน่นอน… คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่ง ของการค้นพบความงาม ที่ซ่อนอยู่ในความลึกลับ ของถ้ำน้ำเงินแห่งนี้
อุโบสถ ไม้สักทอง
อุโบสถไม้สักทอง วัดหนองหลวง – มรดกแห่งงานศิลป์ที่มีชีวิต
กลางผืนป่าตาก มีอัญมณีทางศิลปะ ที่ถูกสรรสร้างขึ้นจากไม้สักทอง ล้วนทั้งหลัง "อุโบสถไม้สักทอง วัดหนองหลวง" คือสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรม งานแกะสลักไม้ ที่ไม่ได้เป็นเพียง สถานที่ทางศาสนา แต่เป็นงานศิลป์ ที่ถ่ายทอดความวิจิตรบรรจง ในทุกกระเบียดนิ้ว เสาแต่ละต้น หน้าบันแต่ละแผ่น บันไดแต่ละขั้น ล้วนถูกสกัดจากไม้สักทอง ที่มีคุณค่า และผ่านการแกะสลัก ด้วยฝีมือช่างไม้ชั้นครู ลวดลายที่ปรากฏบนฝาผนัง และโครงสร้างอุโบสถ บอกเล่าเรื่องราวของพุทธศาสนา วิถีชีวิต และความเชื่อของผู้คนในอดีต ถ่ายทอดผ่านลายไทย ที่คดโค้งอ่อนช้อย สอดประสานไปกับ เส้นสายของศิลปะแบบล้านนา เสมือนรากเหง้าทางวัฒนธรรม ที่หยั่งลึกลงในเนื้อไม้
ทุกลายแกะสลักมีชีวิต และทุกเส้นไม้เล่าเรื่องราวของกาลเวลา ความพิเศษของอุโบสถแห่งนี้ คือไม้สักทอง ที่ใช้ในการก่อสร้าง ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน และผ่านกระบวนการดูแลรักษา เพื่อให้คงทนเหนือกาลเวลา เมื่อยามแสงแดดกระทบเนื้อไม้ ทองคำธรรมชาติจากเนื้อไม้สัก จะเผยประกายแสงเงา ที่ทำให้ตัวอุโบสถดูราวกับมีชีวิต ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน ความสงบและศรัทธา จะโอบล้อมผู้มาเยือน เสียงไม้ที่ส่งเสียงเบา ๆ ยามเดินผ่าน เสมือนเสียงกระซิบแห่งอดีต ที่ยังคงอยู่ นี่ไม่ใช่เพียงวัด แต่คือสมบัติทางศิลปะ ที่สะท้อนจิตวิญญาณของช่างไม้ไทย และเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญ ที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง ในชีวิต
วัดไทยวัฒนาราม - พุทธศาสนา Click ได้กับทุกวัฒนธรรม
วัดไทยวัฒนาราม – ศรัทธาและทองคำในศิลปะพม่า
พุทธศาสนา เป็นรากฐานแห่งจิตวิญญาณ ของมนุษย์ทุกชนชาติ ไม่ว่าจะแตกต่างกัน ทางวัฒนธรรม หรือขนบธรรมเนียม แต่ศรัทธา ยังคงเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน สำหรับชาวพม่า ทองคำและพุทธศาสนา คือสัญลักษณ์ แห่งความศักดิ์สิทธิ์ ที่มิอาจแยกจากกัน พวกเขาเชื่อว่า ทองคำเป็นเครื่องหมายของความบริสุทธิ์ และความสูงส่ง เปรียบเสมือนแสงแห่งธรรม ที่ส่องนำทางจิตใจ ศิลปกรรมของชาวพม่า จึงสะท้อนแนวคิดนี้อย่างงดงาม ผ่านการสร้างพุทธสถาน ที่เปล่งประกายด้วยเนื้อทองคำ และการแกะสลักลวดลายอ่อนช้อย สะท้อนความวิจิตรบรรจง ของงานศิลป์ และความเคารพ ต่อพระพุทธศาสนา ได้อย่างลึกซึ้ง
หนึ่งในสถานที่ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของพุทธศิลป์พม่า ที่งดงามที่สุดในประเทศไทย ก็คือ วัดไทยวัฒนาราม แม่สอด ที่นี่เป็นดั่งอัญมณีแห่งศรัทธา ตั้งตระหง่านด้วยเจดีย์สีทองอร่าม ส่องประกายเมื่อกระทบกับแสงแดด เสริมด้วยวิหาร ที่ประดับด้วยลวดลายไม้แกะสลัก อย่างวิจิตร ตามศิลปะแบบพม่า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ พร้อมทั้งจิตรกรรม และประติมากรรม ที่ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งพุทธศาสนา เมื่อก้าวเข้าสู่เขตวัด คุณจะสัมผัสได้ถึงความสงบ ความศรัทธา และมนต์เสน่ห์ของศิลปกรรม ที่หลอมรวมวัฒนธรรมไทย-พม่า เข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม หากคุณต้องการเข้าใจ ความหมายที่แท้จริง ของพุทธศาสนา และศิลปะ ที่เกี่ยวพันกับความศักดิ์สิทธิ์ วัดไทยวัฒนาราม คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด เป็นอันขาด
ที่วัดพระธาตุปางหลวง ลำปาง
ตำนานแห่งลัมพะกัปนคร – คำทำนายที่กลายเป็นจริง
เสียงกลองศึก ยังไม่ดังขึ้น เสียงกังสดาลยังมิได้สั่นไหว และแผ่นดินล้านนา ยังเป็นเพียงอาณาจักร ที่รอวันถือกำเนิด ณ ที่แห่งนี้ ย้อนเวลากลับไป เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีก่อน ดินแดนแห่งนี้ยังไร้ซึ่งนาม
วันหนึ่ง… ขณะที่พระพุทธองค์ เสด็จจาริกไปตามเส้นทางธรรม พระองค์เสด็จมายังที่ราบแห่งหนึ่ง ท่ามกลางป่าไม้สูงเสียดฟ้า มีชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง มารอรับเสด็จด้วยความปีติ พวกเขาได้กราบทูลขอพร เพื่อให้ดินแดนนี้ เป็นมงคลสืบไป พระพุทธเจ้าทรงแย้มพระสรวล แล้วหยิบเส้นพระเกศาของพระองค์เอง ออกมา ประทานให้แก่เหล่าผู้ศรัทธา พร้อมกับตรัสว่า
"ต่อไป ณ ที่แห่งนี้ จะถูกเรียกว่า ลัมพะกัปนคร และวันหนึ่ง จะเป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุ อันยิ่งใหญ่"
ชาวบ้านพากันโค้งศีรษะ ด้วยความเลื่อมใส ขณะที่พระองค์ทอดพระเนตร ไปยังฟากฟ้า… อาณาจักรในอนาคต กำลังก่อรูปขึ้น ในเงาของพระพุทธทำนาย
พระธาตุลำปางหลวง – พลังแห่งศรัทธา ที่ทำให้หัวใจสะท้าน
และคำทำนายนั้น…เกิดขึ้นจริง
กาลเวลาผ่านไป… จากลัมพะกัปนคร กลายเป็น "ลำปาง" ที่เรารู้จัก และที่แห่งนี้เอง คือที่ตั้งของ พระธาตุลำปางหลวง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ ผู้ศรัทธาต้องมาเยือน สักครั้งในชีวิต เมื่อก้าวเข้าสู่เขตพุทธสถาน ความยิ่งใหญ่ที่รายล้อม ทำให้หัวใจเต้นแรง กำแพงแก้วสูงตระหง่าน โอบล้อมพุทธศาสนสถาน อันทรงคุณค่า บันไดพญานาคราชสี่ทิศ ทอดตัวยาวสู่พระวิหาร ดุจสะพานเชื่อมโย งระหว่างโลกมนุษย์และสวรรค์
ภายในพระอาราม ยังมี หอพระแก้วดอนเต้า สถานที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต องค์แรกของล้านนา และสุดยอดของความศรัทธา แห่งนี้คือ องค์พระธาตุลำปางหลวง พระเจดีย์ศิลปะล้านนา ที่สง่างาม ตระหง่านเหนือแผ่นดิน สีทองเรืองรอง ขององค์พระธาตุ เปล่งประกายเมื่อกระทบแสงแดด ราวกับเป็นประกายแห่งพุทธธรรม ที่ยังคงส่องนำทาง ผู้ศรัทธามาเนิ่นนาน
ไม่มีใครเคยยืนยัน ว่าตำนานพระพุทธเจ้ามอบเส้นผม และทำนายอนาคตนี้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ความศักดิ์สิทธิ์ และความยิ่งใหญ่ของพระธาตุลำปางหลวง เกิดขึ้นจริง และยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้…
เมื่อคุณยืนอยู่เบื้องหน้าพระธาตุ คุณจะรู้สึกได้เองว่า ทุกตำนานมีลมหายใจ และจิตวิญญาณของศรัทธา ยังคงสะท้อนก้องกังวาน อยู่ในอากาศ
เขื่อนภูมิพล
เขื่อนภูมิพล – สุดยอดวิศวกรรมระดับโลก สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของไทย
ตระหง่านเหนือสายน้ำแห่งลุ่มเจ้าพระยา "เขื่อนภูมิพล" ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างขนาดมหึมาที่กั้นแม่น้ำปิง แต่เป็นสัญลักษณ์ แห่งความก้าวหน้าของวิศวกรรมไทยและความร่วมมือระดับนานาชาติ เดิมรู้จักกันในชื่อ "เขื่อนยันฮี" เขื่อนแห่งนี้เป็น เขื่อนคอนกรีตรูปโค้งขนาดยักษ์ แห่งแรกของไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทคโนโลยี ที่ใช้ในการสร้างนั้น ถือว่าล้ำสมัยในยุคนั้น ด้วยความสูงถึง 154 เมตร และมีความยาวของสันเขื่อน 486 เมตร โครงสร้างที่สง่างามแห่งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจาก 14 บริษัทผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก โดยมี สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และการก่อสร้าง เพื่อสร้างเขื่อน ที่สามารถรองรับแรงกดดัน ของน้ำมหาศาลได้ และหลังจากความทุ่มเท และความวิริยะอุตสาหะ ของทีมงานนับพัน เขื่อนภูมิพลก็แล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2507 กลายเป็นหนึ่งในโครงการ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย ที่สร้างขึ้นเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และการชลประทาน
เขื่อนแห่งพลังงาน ทัศนียภาพแห่งสายน้ำ และความภาคภูมิใจของชาติ
ความอลังการของเขื่อนภูมิพล ไม่ได้มีเพียงโครงสร้างขนาดยักษ์ แต่ยังรวมถึง ทะเลสาบเหนือสันเขื่อน ที่กว้างใหญ่ ราวกับมหาสมุทรกลางหุบเขา สายน้ำปิงที่เคยไหลเชี่ยวกราก ได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลสาบ ที่เงียบสงบและงดงาม ให้ทัศนียภาพที่น่าทึ่ง ตลอดแนวเหนือเขื่อน การล่องเรือชมวิวรอบเขื่อน ทำให้ได้สัมผัสกับ ขุนเขาที่โอบล้อม ผืนน้ำสีเขียวมรกต พร้อมลมเย็นพัดโชยมาตลอดเส้นทาง เสริมด้วยความสง่างามของตัวเขื่อน ที่ยืนหยัดเป็นพลังงานสะอาด ให้แก่ประเทศ มายาวนานหลายทศวรรษ เขื่อนภูมิพลไม่ได้เป็นเพียง แค่แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงวิศวกรรม ที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ ในความสามารถของชาติ การมาเยี่ยมชมเขื่อนแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะตื่นตาตื่นใจ กับความยิ่งใหญ่ของโครงสร้าง แต่ยังได้ซึมซับ ถึงความมุ่งมั่นของคนไทย ในการสร้างอนาคตที่มั่นคง ด้วยมือของเราเอง
ดอยม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม – สัมผัสลมหนาว สายหมอก และเสน่ห์แห่งขุนเขา
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่ทำให้หัวใจสดชื่น ราวกับได้ชาร์จพลังจากธรรมชาติ "ดอยม่อนแจ่ม" คือคำตอบของคุณ ที่นี่เป็นดินแดนแห่งขุนเขา ที่สวยงาม จนเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด อากาศเย็นสดชื่นตลอดปี ไม่ว่าคุณจะมาเยือนช่วงไหน ก็จะได้สัมผัสลมหนาว ที่โอบล้อมตัว พร้อมสายหมอกขาว ที่ลอยละล่อง ตัดกับแนวเขาสลับซับซ้อน ราวกับพรมสีเขียว ทอดยาวสุดสายตา เมื่อเดินเล่นไปตามเส้นทางของม่อนแจ่ม คุณจะได้พบกับ สวนดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งไปทั่วดอย สีสันสดใสของดอกคอสมอส ลาเวนเดอร์ และเวอร์บีน่า ทำให้ทิวทัศน์ดูราวกับภาพฝัน ทุกมุมของม่อนแจ่ม คือความงามที่คุณต้องจดจำ ไม่ใช่เพียงเพราะมันสวย แต่เพราะมันทำให้หัวใจคุณ พองโตไปด้วยความสุข
การมาเยือนม่อนแจ่ม ไม่ได้เป็นเพียงทริปท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นช่วงเวลา ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต คุณเคยได้ยินอาการ "ไฮเปอร์ธีมีเซีย" (Hyperthymesia) หรือไม่? มันคือภาวะที่ทำให้บุคคล สามารถจดจำเหตุการณ์ทุกช่วงของชีวิต ได้อย่างแม่นยำ และม่อนแจ่ม… จะทำให้คุณสัมผัสอาการนี้ โดยไม่ต้องเป็นโรค เพราะทุกช่วงเวลาที่นี่ จะถูกบันทึก ลงในความทรงจำของคุณ อย่างชัดเจน ความเย็นที่สัมผัสผิว ลมหนาวที่พัดผ่านตัว หมอกจาง ๆ ที่โอบกอดขุนเขา และวิวทิวทัศน์ ที่งดงามจับใจ ทุกองค์ประกอบ ทำให้คุณหลงรักม่อนแจ่มโดยไม่รู้ตัว หากคุณต้องการสถานที่พักผ่อน ที่เติมเต็มความสุข และความประทับใจ ม่อนแจ่มคือลิสต์ ที่คุณต้องมาให้ได้สักครั้ง… แล้วคุณจะจดจำทุกความรู้สึกนี้ ตลอดไป
วัดพระธาตุดอยสุเทพ
วัดพระธาตุดอยสุเทพ – งามวิจิตรแห่งล้านนา อมตะแห่งศรัทธา
สูงตระหง่านเหนือเมืองเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ คือสัญลักษณ์แห่งศรัทธา และศิลปะล้านนา ที่ไม่มีวันเลือนหาย ทุกย่างก้าว ที่มุ่งขึ้นสู่พระธาตุ ไม่ว่าจะผ่าน บันไดพญานาคอันอ่อนช้อย หรือการเดินทางขึ้นสู่ยอดดอย ด้วยรถรางไฟฟ้า ต่างเต็มไปด้วยความรู้สึก ที่ศักดิ์สิทธิ์ และน่าตื่นตา เบื้องหน้า... พระธาตุสีทองอร่าม ส่องประกายสะท้อนแสงอาทิตย์ เปล่งรัศมีงามสง่า ล้อมรอบด้วยวิหาร และศาสนสถานที่สลักเสลาลวดลายอย่างวิจิตร บรรจงตามแบบฉบับล้านนา ศิลปะที่นี่มิใช่เพียงฝีมือ หากแต่เป็นจิตวิญญาณ ทุกเส้นสาย ทุกองค์ประกอบ บ่งบอกถึงความละเอียดอ่อน และความศรัทธา ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
"เมื่อวานก็สวย วันนี้กลับสวยกว่าเมื่อวาน" นี่คือเสน่ห์ที่แท้จริงของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ไม่ว่าคุณจะมาเยือนกี่สิบครั้ง ความประทับใจ ที่ได้รับยังคงเต็มเปี่ยมเสมอ แสงแดดยามเช้า ที่สาดลงบนองค์พระธาตุ เปลี่ยนเป็นแสงทองอุ่นใจ เมื่อถึงยามเย็น บรรยากาศกลับนุ่มนวล ราวกับต้องมนต์ ทุกครั้งที่ได้มองพระธาตุ ยิ่งเกิดความสงบ ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังแห่งศรัทธา ที่อบอวลอยู่รอบกาย ล้านนาไม่ได้เป็นเพียงศิลปะ หากแต่เป็นความงาม ที่ก้าวข้ามกาลเวลา และพระธาตุดอยสุเทพ คือบทพิสูจน์ของความงาม ที่ไม่เคยจางหาย ไม่ว่าคุณจะเคยไปกี่ครั้ง ก็ยังต้องการไปอีกเสมอ… เพราะทุกครั้งที่มาเยือน คุณจะได้สัมผัส กับมิติใหม่ของความงดงาม ที่แตกต่างออกไป ราวกับว่า… วัดแห่งนี้มีชีวิต และกำลังเผยความงามใหม่ ให้เรามองเห็นในทุกการเยือน
สวนพฤกษศาสตร์ พระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์ – ดินแดนแห่งดอกไม้เมืองเหนือ และการผจญภัยบนยอดไม้
ท่ามกลางขุนเขา และป่าไม้เก่าแก่ ที่มีอายุนับร้อย ๆ ปี สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว เพราะที่นี่คือ อาณาจักรแห่งพรรณไม้เมืองเหนือ ที่รวบรวมดอกไม้นานาชนิด จากทั่วดินแดนล้านนา ถูกจัดแสดงอย่างสวยงาม ทั้งใน เรือนกระจกขนาดใหญ่ และแปลงสาธิตกลางแจ้ง ภายในเรือนกระจก คุณจะได้พบกับพืชพรรณหายาก ดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งตามฤดูกาล และพรรณไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ความสดชื่นจากแมกไม้สีเขียว เสียงนกร้อง ที่แว่วมาเบา ๆ ทำให้บรรยากาศที่นี่ เต็มไปด้วยความสงบและความรื่นรมย์ของธรรมชาติ
แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่โดดเด่น และพลาดไม่ได้ คือ "Canopy Walkway" หรือสะพานเดินชมยอดไม้ ที่ทอดยาว เข้าสู่ใจกลางป่าลึก สะพานแห่งนี้สร้างขึ้น ตามมาตรฐานความปลอดภัย ระดับสากล ให้คุณได้สัมผัส บรรยากาศของป่าดิบชื้น จากมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เดินอยู่เหนือยอดไม้สูง เสมือนล่องลอยอยู่ท่ามกลางทิวป่า สายลมที่พัดผ่าน เสียงใบไม้ไหว และวิวทิวทัศน์ ที่เปิดกว้าง ไกลสุดสายตา ทำให้ทุกก้าวที่เดิน เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้น นี่คือกิจกรรมที่ให้คุณ ได้เข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง ได้เห็นป่าไม้ใหญ่ ในมุมที่ต่างออกไป ปลอดภัยแต่ตื่นเต้น สงบแต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ คือจุดหมายปลายทาง ที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักธรรมชาติ และการผจญภัย
โต้งหลวง – ศูนย์รวม 8 ชนเผ่าบนขุนเขา
โต้งหลวง – ศูนย์รวม 8 ชนเผ่าบนขุนเขา สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย ในที่เดียว
หากคุณอยากเปิดมุมมองใหม่ และสัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ บนดินแดนสูง "โต้งหลวง" คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นหมู่บ้าน ที่พิเศษและหาได้ยาก เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของ 8 ชนเผ่าชาวเขา ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ได้แก่ กะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ), ม้ง, อาข่า, ลาหู่, ลีซอ, เย้า (เมี่ยน), ขมุ และต้ง แต่ละชนเผ่า มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่โดดเด่นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแต่งกายพื้นเมือง อาหารประจำเผ่า ศิลปหัตถกรรม การทำเกษตรแบบดั้งเดิม และพิธีกรรมทางศาสนา โต้งหลวงจึงเปรียบเสมือน พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่ทำให้คุณได้สัมผัส ถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ อย่างแท้จริง
สิ่งที่ทำให้การเยี่ยมชมโต้งหลวง แตกต่างจากที่อื่น คือคุณไม่ได้แค่ มองเห็น แต่มันเป็นการ ลงมือสัมผัส และเข้าถึงวัฒนธรรมโดยตรง คุณสามารถเดินชมหมู่บ้าน พูดคุยกับชาวเขา เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ลองชิมอาหารพื้นเมือง ฝึกทอผ้า หรือแม้แต่ลองสวมใส่ชุดประจำเผ่า บรรยากาศของหมู่บ้าน รายล้อมด้วยขุนเขา และธรรมชาติบริสุทธิ์ ทำให้ทุกช่วงเวลาที่นี่ เต็มไปด้วยเสน่ห์ นี่ไม่ใช่เพียงแค่การท่องเที่ยว แต่เป็นประสบการณ์ ที่เสริมความคมชัด ให้กับมุมมองของคุณ ที่นี่จะทำให้คุณเห็นว่า แม้จะต่างกันในภาษา และขนบธรรมเนียม แต่ทุกชนเผ่า มีหัวใจที่เชื่อมโยงกัน ด้วยรากเหง้าแห่งวิถีชีวิต บนขุนเขา
 |
โปรแกรม |
 |
 |
วันที่ 1: |
เริ่มต้นการเดินทางสุดพิเศษ สู่ดินแดนแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรม |
12:00 น. |
การต้อนรับระดับ Upper Class ณ สนามบินแม่สอด
เมื่อเครื่องบินแตะพื้นสนามบินแม่สอด ทีมงานระดับ Upper Class พร้อมให้การต้อนรับคุณอย่างอบอุ่นด้วย ทัวร์ไกด์มืออาชีพ คนขับผู้เชี่ยวชาญเส้นทาง และ Service Staff ที่ผ่านการฝึกอบรมมาตรฐานสูงสุด พร้อมดูแลคุณตลอดทริป ทุกอย่างถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น สะดวกสบาย และเหนือระดับ |
12:30 น. |
ลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อของแม่สอด
จากสนามบิน เราจะเดินทางไปยัง ร้านอาหารท้องถิ่นชื่อดัง ประจำอำเภอแม่สอด เมืองชายแดน ที่เต็มไปด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ อาหารที่นี่ได้รับอิทธิพล จากวัฒนธรรมไทย-พม่า ไม่ว่าคุณจะเลือกชิม แกงฮังเลรสกลมกล่อม หรือข้าวซอยเส้นเหนียวนุ่ม ทุกจานถูกปรุงอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ จากท้องถิ่น |
13:30 น. |
สู่เส้นทาง 1,219 โค้ง… เพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติ สุดตระการตา
หลังจากมื้อกลางวัน เราจะออกเดินทางสู่ อุ้มผาง ผ่านเส้นทางอันโด่งดัง ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ สองข้างทาง 1219 โค้งแห่งความสุข ถูกขับผ่านด้วยฝีมือของ คนขับมืออาชีพ ที่ช่วยให้คุณเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการเมารถ ทิวทัศน์เบื้องหน้าคือ ภูเขาสลับซับซ้อน ผืนป่าดิบชื้น สวนดอกไม้เมืองหนาว และจุดชมวิวที่สวยงาม ราวกับภาพวาด ทุกมุมที่ผ่านไปคือความงาม ที่ต้องจดจำ |
16:00 น. |
ถึงอุ้มผาง เยือนศิลปะไม้สักทองสุดวิจิตร
เดินทางถึง อุ้มผาง เมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าดิบ อ้อมกอดแห่งธรรมชาติ ที่ยังคงความบริสุทธิ์ เราเริ่มต้นการสำรวจด้วยการเยี่ยมชม “อุโบสถไม้สักทอง” วัดหนองหลวง สถานที่ที่สะท้อนถึง งานแกะสลักระดับปรมาจารย์ เสา หน้าบัน บันได และหลังคา ล้วนถูกสร้างขึ้นจาก ไม้สักทองแท้ทั้งหลัง ลวดลายที่อ่อนช้อย สื่อถึงจิตวิญญาณของศิลปะ แบบล้านนาได้อย่างงดงาม |
16:45 น. |
สัมผัสความงามของทุ่งดอกไม้อุ้มผาง
อีกหนึ่งจุดหมาย ที่คุณไม่ควรพลาดคือ “ทุ่งดอกไม้อุ้มผาง” ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ไม่ว่าคุณ จะมาเยือนช่วงไหน คุณจะได้เห็นดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง ละลานตา ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น |
17:30 น. |
Check-In สู่ที่พักระดับพรีเมียม
ที่พักของคุณคืนนี้คือ “The Riverside Telorsu” รีสอร์ทที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ผ่านมาตรฐาน Top Hygiene (ไร้กลิ่น ไร้ฝุ่น ไร้ความชื้น) และตั้งอยู่ ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามที่สุด ของเมืองอุ้มผาง ภายในรีสอร์ทเงียบสงบ ให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนเริ่มต้นการผจญภัยในวันถัดไป |
18:00 น. |
เยือนตลาดคนเดินอุ้มผาง สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น
ช่วงค่ำ เราจะพาคุณออกไปเดินเล่นที่ “ตลาดคนเดินอุ้มผาง” ถนนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ของเมืองกลางขุนเขา คุณจะได้สัมผัส วิถีชีวิตของชาวอุ้มผาง ชมสินค้าท้องถิ่น งานฝีมือจากชนเผ่าชาวเขา และลองลิ้มรสอาหารพื้นเมืองหาทานยาก ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเบอะ (ข้าวห่อใบตอง แบบปกาเกอะญอ) หรือกาแฟดริปจากไร่บนดอย ทุกอย่างล้วนเป็นรสชาติ ที่สะท้อนถึงความเป็นอุ้มผาง อย่างแท้จริง |
20:00 น. |
เดินทางกลับที่พัก พร้อมรถส่วนตัวที่ Stand By 24 ชั่วโมง
อุ้มผาง เป็นเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติสูงสุด ไม่มี Taxi หรือรถสาธารณะให้บริการ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะ เรามีรถพร้อมคนขับส่วนตัว ที่สุภาพและมีความเชี่ยวชาญ พร้อม Stand By 24 ชั่วโมง เพื่อให้คุณได้รับความสะดวกสบาย ตลอดทริป |
|
คืนนี้… คุณจะได้นอนหลับไปกับเสียงของธรรมชาติ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุด และเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ ในวันถัดไป |
วันที่ 2: |
ล่องแพสู่สายน้ำแห่งป่าใหญ่ และสัมผัสพลังแห่งทีลอซู |
07:00 น. |
เช้าวันใหม่กับธรรมชาติบริสุทธิ์
เริ่มต้นวันด้วย อาหารเช้าที่รีสอร์ท เสิร์ฟพร้อมวิวธรรมชาติ ที่รายล้อมไปด้วยสายหมอกยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ก่อนออกเดินทางสู่การผจญภัย กลางสายน้ำ ทีมงานพร้อมจัดเตรียม แพส่วนตัว ระดับพรีเมียม ให้คุณได้เพลิดเพลิน ไปกับธรรมชาติ อย่างเต็มที่ |
08:30 น. |
ล่องแพสัมผัสเสน่ห์แห่งลำน้ำสายบริสุทธิ์
คุณจะได้ล่องแพไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เฉพาะลูกค้าของเราเท่านั้น เสริมด้วยทัวร์ไกด์ท้องถิ่น ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ผู้ที่รู้จักลำน้ำสายนี้ดียิ่งกว่าใคร ทุกคำถามเกี่ยวกับป่า ธรรมชาติ และวิถีชีวิต จะได้รับคำตอบ จากประสบการณ์ตรง ที่หาฟังจากที่ไหนไม่ได้
ขณะที่แพเคลื่อนตัวไปตามกระแสน้ำเบา ๆ คุณจะรู้สึกเสมือน หลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง เพราะที่นี่… เป็นป่าสงวนพิเศษ ที่ไม่มีรอยตำหนิ แม้แต่ตารางเมตรเดียว ทิวไม้สูงใหญ่เอนรับสายลม สะท้อนแสงแดดอ่อน ๆ ลงบนพื้นน้ำ เสียงสายน้ำไหลกระทบโขดหินเบา ๆ ผสานกับเสียงนกป่า กลายเป็นท่วงทำนองแห่งธรรมชาติ ที่สมบูรณ์แบบ
ระหว่างเส้นทาง คุณจะได้พบกับ
- ม่านน้ำตกทีลอจ๋อ – น้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาสูงเป็นสาย ก่อนตกกระทบแม่น้ำ สวยจับใจ
- น้ำตกสายรุ้ง – สายน้ำบางเบาที่กระทบกับแสงแดดกลายเป็น รุ้งกินน้ำ ที่ปรากฏให้เห็น ตลอดทั้งวัน
- ธารน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ – แหล่งน้ำพุร้อน ที่ไหลแยกออกมาก่อนลงสู่แม่น้ำใหญ่ คุณสามารถเลือกลงแช่ เพื่อผ่อนคลาย หรือแค่สัมผัสไอร้อนจากธรรมชาติ
- แก่งตะโก๊บิ๊ – หนึ่งในแก่งที่สวยที่สุดของเส้นทางนี้ น้ำใสสะอาดสะท้อนท้องฟ้า สีสันงดงาม จนหาที่เปรียบไม่ได้
|
12:00 น. |
อาหารกลางวันสุดพิเศษ ณ ผาเลือด
แพจะพาคุณมาถึง ผาเลือด หน้าผาสูง ที่เป็นที่ตั้งของสำนักอุทยานแห่งชาติ ที่ดูแลเส้นทางนี้ บรรยากาศที่นี่ งดงามเกินบรรยาย รายล้อมไปด้วยขุนเขา และสายน้ำ สถานที่แห่งนี้ จึงถูกเลือกให้เป็น จุดพักรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมให้คุณได้สัมผัสรสชาติ ของอาหารพื้นเมือง ที่จัดเตรียมมาเป็นพิเศษ |
13:00 น. |
มุ่งหน้าสู่น้ำตกทีลอซู
หลังจากเติมพลัง เราจะเดินทางเข้าสู่ เขตอุทยานแห่งชาติ น้ำตกทีลอซู ที่นี่เป็นจุดพักสั้น ๆ ให้คุณได้สัมผัสความร่มรื่น ของผืนป่า ก่อนเริ่มต้นเดินเท้าเข้าไปยัง น้ำตก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ระยะทางเดินป่ากว่า 1 กิโลเมตร จะเป็นดั่งบททดสอบเล็ก ๆ ของร่างกาย แต่ความอยากเห็นความงาม ของทีลอซู จะเป็นแรงผลักดัน ให้คุณเดินหน้าต่อไป
และแล้ว… “ราชันแห่งน้ำตก” ก็ปรากฏตรงหน้า
เสียงกระแสน้ำคำราม ก้องดังขึ้นทุกก้าว ที่เข้าใกล้ และเมื่อพ้นแนวป่า “น้ำตกทีลอซู” ก็ปรากฏตรงหน้า งดงามและยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย สายน้ำมหึมา ที่ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผา สูงกว่า 250 เมตร ทอดตัวลงสู่เบื้องล่าง ราวกับม่านแห่งสรวงสวรรค์ ละอองน้ำเย็น จับตัวเป็นหมอกบาง ๆ ทั่วบริเวณ อากาศรอบตัว เต็มไปด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์
“ยืนอยู่ตรงนี้… รู้สึกได้ถึงพลังของธรรมชาติ ที่ยิ่งใหญ่ จนเรากลายเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ”
เชิงอรรถ: บรรยากาศของทีลอซู เต็มไปด้วยไอออนประจุลบ (Negative Ion) ซึ่งมีคุณสมบัติ ช่วยชะลอวัย ลดการทำงานของอนุมูลอิสระ และกระตุ้นสมองส่วนสร้างสรรค์ ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น ราวกับได้รับพลังใหม่ |
14:30 น. |
ดื่มด่ำกับทีลอซูอย่างเต็มที่
คุณจะมีเวลาสำหรับ
- อาบน้ำตกให้เย็นฉ่ำ
- เดินสำรวจจุดชมวิวที่หลากหลาย
- เก็บภาพความยิ่งใหญ่ของทีลอซูไว้เป็นความทรงจำ
- ปีนขึ้นไปยังส่วนที่อนุญาตให้ปีน เพื่อสัมผัสทีลอซูในมุมที่ไม่เหมือนใคร
|
17:00 น. |
เดินทางกลับที่พัก ด้วยรถ 4x4
หลังจากดื่มด่ำกับธรรมชาติจนเต็มอิ่ม เราจะเดินทางกลับรีสอร์ท ด้วยรถ 4x4 ฝ่าผืนป่า ผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์สวยงาม ลมหายใจสุดท้ายของวัน ในป่าใหญ่ จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มเอม และผ่อนคลายก่อนเข้าสู่ค่ำคืน |
18:00 น. |
อาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ
ถึงรีสอร์ท ทีมงานได้เตรียม อาหารค่ำสุดพิเศษ เสิร์ฟท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ดาวพร่างพราย ล้อมรอบไปด้วยเสียงแม่น้ำที่ไหลผ่าน ความเงียบสงบที่สัมผัสได้ จะทำให้คุณรู้ว่า… นี่คือค่ำคืนที่สมบูรณ์แบบที่สุด |
|
คืนนี้… ให้ธรรมชาติเป็นเสียงกล่อม ให้คุณหลับใหล เตรียมตัวสำหรับการเดินทางสุดพิเศษ ในวันถัดไป |
วันที่ 3: |
ล่องลอยเหนือทะเลหมอก ดื่มด่ำความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ และสัมผัสวัฒนธรรม ชายแดน |
05:00 น. |
ตื่นรับอรุณ สู่ดอยหัวหมด สัมผัสทะเลหมอกสุดอลังการ
เมื่อความเงียบสงบของยามเช้า ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกของไกด์ ได้เวลาขึ้นสู่ยอดดอยหัวหมด (หรือดอยหัวมด) เพื่อสัมผัสความมหัศจรรย์ของทะเลหมอก ณ จุดชมวิวที่สูงที่สุดของอุ้มผาง ขณะรถค่อย ๆ เคลื่อนผ่านทางลัดเลาะขึ้นเขา อากาศเย็นสดชื่นยามรุ่งสาง โอบล้อมตัวคุณ เมื่อถึงยอดดอย มองออกไปไกลสุดสายตา… ทะเลหมอกสีขาวโพลน ทอดตัวเต็มหุบเขา ราวกับผืนคลื่นแห่งสรวงสวรรค์
แสงแรกของดวงอาทิตย์ เริ่มพยายามทะลุผ่านม่านหมอกสีขาว สาดประกายทอง ลงมาย้อมแนวเขา สลับซับซ้อน สายหมอกค่อย ๆ จางลง เผยให้เห็น พรมสีเขียวของผืนป่า ทุ่งดอกไม้ ที่แต่งแต้มสีสันซ้ายขวา ลมเย็นพัดผ่าน ร่างกายตื่นตัว รับความสดชื่นบริสุทธิ์จากธรรมชาติ เป็นเช้าที่จะตราตรึง อยู่ในความทรงจำของคุณ ไปอีกนาน |
08:30 น. |
กลับรีสอร์ท รับประทานอาหารเช้า เติมพลังสำหรับวันสุดท้ายของทริป
หลังจากอิ่มเอม กับภาพความงามของธรรมชาติ กลับมายังรีสอร์ทเพื่ออิ่มท้องด้วย อาหารเช้าแสนอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ของอุ้มผาง ก่อนออกเดินทาง ไปยังจุดหมายต่อไป |
09:30 น. |
Check Out และออกเดินทางสู่ความมหัศจรรย์ของ "ถ้ำสีฟ้า"
หลังจาก Check Out ออกจากรีสอร์ท เราจะพาคุณมุ่งหน้าสู่หนึ่ง ในจุดหมายสุดพิเศษ ของทริป "Blue Cave" หรือ ถ้ำสีฟ้า ถ้ำมหัศจรรย์ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่เต็มไปด้วยความงดงาม ที่เหนือจินตนาการ |
11:00 น. |
สัมผัสมนต์เสน่ห์ของ "Blue Cave" ถ้ำสีฟ้าแห่งธรรมชาติ
ทัวร์ไกด์เตรียม ไฟฉายสำหรับทุกท่าน ก่อนนำคุณเข้าสู่ถ้ำสีฟ้า ที่มีความยาวกว่า 200 เมตร (ไปกลับ) แร่ลาซูไรท์และแทนซาไนท์ ในผนังถ้ำ เปล่งประกายเป็นสีฟ้าเรืองรอง เมื่อแสงไฟกระทบ ภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ที่สะท้อนสีสันหลากหลาย จากฟ้าเป็นม่วง จากทองเป็นเขียว ทุกมุมคือผลงานศิลปะจากธรรมชาติ ที่สร้างขึ้นมานานนับล้านปี จุด Highlight หลายแห่งในถ้ำ ทำให้คุณต้องหยุดมอง เก็บภาพความงดงาม และปล่อยให้จินตนาการของคุณ โลดแล่นไปกับโลกอันเหนือจริง ที่อยู่ตรงหน้า |
12:00 น. |
รับประทานอาหารกลางวัน เติมพลังก่อนเดินทางเข้าสู่เมืองแม่สอด |
13:00 น. |
กลับสู่แม่สอด สัมผัสประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวิถีชีวิตชายแดน
เดินทางสู่ เมืองแม่สอด เมืองชายแดน ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน
- แวะศาลสมเด็จพระนเรศวร – สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรกษัตริย์แห่งสยาม ที่นี่มีบรรยากาศขลัง และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
- เยือนวัดไทยวัฒนาราม – สัมผัสความงดงามของศิลปะ ไทย-พม่า สีทองคำอร่ามจับตา เจดีย์พม่า วิหารที่แกะสลักอย่างประณีต และพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ ที่สะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ของสองวัฒนธรรม
|
15:00 น. |
ตลาดชายแดนไทย-พม่า แหล่งรวมสินค้าแปลกตา
เดินเล่นตลาดชายแดนไทย-พม่า ตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย จากทั้งสองฝั่งชายแดน ของหายาก เครื่องประดับเงิน งานหัตถกรรมผ้าทอจากชนเผ่า อาหารพื้นเมือง เครื่องเทศหอม ๆ ไปจนถึงของเก่าหายาก นี่คือสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัส ความคึกคักของวิถีชีวิตชายแดน ที่มีทั้งชาวไทย ชาวพม่า และชนเผ่าต่าง ๆ ค้าขายร่วมกัน |
18:00 น. |
Check In สู่ The Monte แม่สอด รีสอร์ทระดับ 9.5/10
ค่ำคืนนี้พักผ่อนที่ "The Monte แม่สอด" รีสอร์ทที่ได้รับคะแนนรีวิวสูงถึง 9.5/10 ด้วยมาตรฐาน ความสะอาด และบริการระดับสูง ห้องพักหรูหรา บรรยากาศสงบ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นสถานที่ ที่เหมาะแก่การพักผ่อน ก่อนสิ้นสุดการเดินทาง |
18:30 น. |
มื้อค่ำสุดพิเศษริมแม่น้ำโขง
ทัวร์ไกด์จะพาคุณไปยัง ร้านอาหารริมแม่น้ำโขง ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนริมฝั่งน้ำ อาหารค่ำสุดพิเศษ ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบสดใหม่ พร้อมวิวธรรมชาติ ที่ทำให้มื้ออาหารของคุณ ยิ่งพิเศษขึ้น |
20:00 น. |
Nightlife เมืองแม่สอด ชมบรรยากาศสะพานมิตรภาพไทย-พม่า
ปิดท้ายค่ำคืนนี้ ด้วยการชม Nightlife ของเมืองแม่สอด ที่บริเวณ สะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 แสงไฟสะท้อนแม่น้ำ บรรยากาศสุดโรแมนติก และกลิ่นอายของชายแดน ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นฉากสุดท้าย ของทริปอันยิ่งใหญ่ ก่อนกลับเข้าที่พัก เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น |
|
ค่ำคืนนี้... ให้เมืองแม่สอด และสายน้ำโขง เป็นฉากจบที่งดงาม ของการเดินทางสุดมหัศจรรย์
พักผ่อนให้เต็มอิ่ม เตรียมความทรงจำ แห่งทริปนี้ไว้ในใจ แล้วพบกันใหม่ ในการเดินทางครั้งต่อไป |
วันที่ 4: |
ความยิ่งใหญ่แห่งศิลปะ วิศวกรรม และวัฒนธรรมล้านนา |
07:00 น. |
อรุณรุ่ง ณ เชียงใหม่ รับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
เริ่มต้นวัน ด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ที่ The Monte แม่สอด พร้อมวิวสวย ๆ และอากาศบริสุทธิ์ สูดลมหายใจให้เต็มปอด ก่อนออกเดินทาง สู่จุดหมายที่สำคัญของวัน |
08:30 น. |
Check Out และออกเดินทางสู่เขื่อนภูมิพล
จากแม่สอด เราจะเดินทางเข้าสู่จังหวัดตาก เพื่อเยี่ยมชม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม ของประเทศไทย |
10:30 น. |
เยือนเขื่อนภูมิพล สุดยอดวิศวกรรมระดับโลก
เมื่อเดินทางถึง "เขื่อนภูมิพล" หรือชื่อเดิม "เขื่อนยันฮี" คุณจะได้สัมผัสกับ เขื่อนคอนกรีตรูปโค้ง ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และเป็น เขื่อนแรกของประเทศไทย ที่สร้างด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง วิศวกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ ช่วยควบคุมน้ำในแม่น้ำปิง และสร้างพลังงานไฟฟ้า ให้แก่ประเทศมาหลายทศวรรษ
ยืนอยู่เหนือสันเขื่อน คุณจะได้เห็น ทัศนียภาพของทะเลสาบเหนือเขื่อน ที่กว้างใหญ่สุดสายตา รายล้อมไปด้วยขุนเขาเขียวขจี นี่คือ สถานที่ที่คุณสามารถเก็บภาพ ความยิ่งใหญ่จากมุมมอง ที่ไม่ซ้ำใคร และแน่นอนว่า ความอลังการของที่นี่ จะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของทริป ที่คุณต้องจดจำ |
12:00 น. |
น้อมรำลึกถึงพระเจ้าตากสิน ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เดินทางต่อไปยัง ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวตากและนักเดินทาง ให้ความเคารพ ณ ที่แห่งนี้ ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เคยรวบรวมกำลังพล เพื่อกอบกู้เอกราชของชาติ สถานที่นี้จึงเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา และความกล้าหาญ |
13:00 น. |
นมัสการ "พระธาตุจำปาหลวง" หนึ่งในศิลปะล้านนาอันทรงคุณค่า
พระธาตุจำปาหลวง คือหนึ่งในงานศิลปะล้านนาโบราณ ที่สืบทอดมาก่อนปีพุทธศักราช จะเริ่มต้น โครงสร้างของพระธาตุ สะท้อนถึงความลึกซึ้ง ของวัฒนธรรมล้านนา ไม่ว่าจะเป็น เจดีย์ที่งดงาม ลวดลายที่สลักเสลาอย่างประณีต หรือมนต์ขลัง ที่สัมผัสได้จากบรรยากาศอันสงบ การได้มาเยือนที่นี่ เป็นทั้งการเคารพบูชา และการซึมซับพลังงานแห่งศรัทธา ที่ส่งต่อจากอดีตสู่ปัจจุบัน |
17:00 น. |
Check In สู่ Le Meridien เชียงใหม่ – สัมผัสไลฟ์สไตล์หรูใจกลางเมือง
เข้าสู่เชียงใหม่ Check In ณ Le Meridien Chiang Mai โรงแรมระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ติดกับ Chiang Mai Night Bazaar ศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการช้อปปิ้งของเมืองเหนือ ที่นี่คุณจะได้พักผ่อน ในห้องพักที่หรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้ค่ำคืนสุดท้ายของทริป เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย |
18:30 น. |
"ขันโตกดินเนอร์" สัมผัสวัฒนธรรมล้านนาแท้ ๆ
ค่ำคืนนี้เราจะพาคุณเข้าสู่ "ขันโตกดินเนอร์" มื้ออาหารที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตล้านนา อาหารพื้นเมืองเสิร์ฟมาใน ขันโตกไม้แกะสลักสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น
- แกงฮังเลรสเข้มข้น
- ไส้อั่วหอมเครื่องเทศ
- น้ำพริกหนุ่มและน้ำพริกอ่อง พร้อมผักพื้นเมืองสด ๆ
- ข้าวเหนียวที่หุงมาอย่างพอดี นุ่มหอมและเคี้ยวเพลิน
ระหว่างมื้ออาหาร คุณจะได้ชม การแสดงศิลปะล้านนา และการฟ้อนรำจากชนเผ่าต่าง ๆ เช่น
- ระบำฟ้อนเล็บ อ่อนช้อยงดงาม
- ระบำกิงกะหล่า จากชาวไทยใหญ่
- การแสดงกลองสะบัดชัย ที่สะท้อนพลังของศิลปะล้านนา
- นี่คือ ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของเชียงใหม่ ที่จะตราตรึงอยู่ในใจคุณ
|
20:00 น. |
Night Bazaar & เชียงใหม่ยามค่ำคืน
หลังจากขันโตกดินเนอร์ เราจะพาคุณไปเดินเล่นที่ Chiang Mai Night Bazaar ที่ซึ่งชีวิตของเมืองเหนือ ยังคงคึกคักในยามค่ำคืน คุณสามารถ
- เลือกซื้อสินค้าหัตถกรรม งานศิลปะ ของที่ระลึก
- เดินชมตลาดโต้รุ่ง ลิ้มรสอาหารสตรีทฟู้ดเมืองเหนือ
- จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ในบาร์บรรยากาศดี
- ที่นี่…คือการปิดท้ายทริปที่สมบูรณ์แบบที่สุด ให้คุณซึมซับบรรยากาศของเชียงใหม่ยามค่ำคืนก่อนเดินทางกลับที่พัก
|
วันที่ 5: |
ปิดท้ายการเดินทาง ด้วยความงดงามของขุนเขา ศิลปะ และวัฒนธรรมล้านนา |
07:00 น. |
อรุณสวัสดิ์เชียงใหม่ กับมื้อเช้าท่ามกลางวิวเมืองเหนือ
เริ่มต้นเช้าวันสุดท้าย ด้วย อาหารเช้าสุดพิเศษที่ Le Meridien เชียงใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเหนือ ที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้น สูดอากาศเย็นสบาย เติมพลัง พร้อมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ในวันสุดท้าย |
09:00 น. |
Check Out และออกเดินทางสู่ม่อนแจ่ม
หลังจากเช็คเอาท์ ทีมงานบริการระดับ Upper Class จัดเก็บสัมภาระของท่านขึ้นรถ พร้อมอย่างเรียบร้อย จากนั้นมุ่งหน้าสู่ "ดอยม่อนแจ่ม" หนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่สวยงาม และมีเสน่ห์มากที่สุด ของเชียงใหม่ |
10:00 น. |
สัมผัสเสน่ห์แห่งม่อนแจ่ม – วิวขุนเขาและสายหมอก
เมื่อมาถึง "ม่อนแจ่ม" คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์อันสวยงาม สุดสายตา ขุนเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวราวกับพรมสีเขียว อากาศที่นี่เย็นสดชื่นตลอดปี และไกด์ของเรา จะนำท่านเดินเลียบแนวเขา ไปบน "สะพานดอกไม้" ทางเดินที่เชื่อมผ่านสวนดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งไปทั่วดอย
อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพิเศษ ที่คุณต้องลอง "ขับรถแม้ว" ยานพาหนะของชาวเขา ที่จะพาคุณโลดแล่น ไปบนเส้นทางภูเขา สัมผัสประสบการณ์ความสนุก พร้อมชมวิวสวย ๆ ของม่อนแจ่ม แบบใกล้ชิด |
11:00 น. |
ชมสวนพฤกษศาสตร์ & สะพานเดินชมยอดไม้ Canopy Walkway
จากม่อนแจ่ม เราจะเดินทางต่อไปยัง "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" ที่ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบ ของเชียงใหม่ ที่นี่เป็นที่รวบรวม พืชเมืองหนาวหายาก จากทั่วทุกมุมโลก คุณจะได้เดินชมเรือนกระจก ที่จัดแสดงพันธุ์ไม้เขตร้อน หายาก และสมุนไพรไทยโบราณ
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือ "Canopy Walkway" สะพานเดินชมยอดไม้ ที่ทอดยาวเหนือพื้นป่า สูงกว่า 20 เมตร ให้คุณได้สัมผัสมุมมองของป่า ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เดินลัดเลาะ ไปตามเส้นทางเหนือยอดไม้ สูดอากาศบริสุทธิ์ มองเห็นวิวภูเขาไกลสุดสายตา นี่คือกิจกรรม ที่ทำให้คุณได้เข้าใกล้ธรรมชาติ อย่างแท้จริง |
12:00 น. |
รับประทานอาหารเที่ยงริมแม่น้ำแม่สา
เพลิดเพลินกับมื้ออาหารกลางวันแสนอร่อย ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำแม่สา บรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางสายน้ำเย็น และต้นไม้นานาชนิด ลิ้มรสอาหารเหนือแท้ ๆ เช่น แกงฮังเล ลาบคั่ว และน้ำพริกอ่อง พร้อมข้าวเหนียวนุ่ม ๆ |
14:00 น. |
นมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ความงามที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
ไม่มีการมาเยือนเชียงใหม่ครั้งใด จะสมบูรณ์แบบได้ หากคุณไม่ได้ไปกราบ สักการะพระธาตุดอยสุเทพ วัดคู่บ้านคู่เมือง ที่ตั้งอยู่บนยอดดอย ทุกครั้งที่มาเยือน พระธาตุแห่งนี้ กลับดูงดงามกว่าครั้งก่อน
- เดินขึ้นบันไดพญานาค 306 ขั้น หรือเลือกใช้รถรางไฟฟ้า
- ชื่นชมองค์พระธาตุสีทองอร่าม สถาปัตยกรรมล้านนาแท้ ๆ
- สัมผัสความสงบและศรัทธา ผ่านเสียงสวดมนต์และกลิ่นธูปหอม
- ชมวิวเมืองเชียงใหม่จากมุมสูง สุดลูกหูลูกตา
พระธาตุดอยสุเทพ ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่มันคือพลังแห่งศรัทธา ที่ตราตรึงในจิตวิญญาณ ของทุกผู้คนที่มาเยือน |
17:00 น. |
แวะซื้อของฝาก ของดีเมืองเชียงใหม่
ก่อนเดินทางไปสนามบิน ทีมงานจะพาท่านแวะ "ตลาดของฝากเชียงใหม่" ที่รวมสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ของดีจากชุมชน
- ชาและกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงจากดอยทางเหนือ
- ผ้าทอมือ และเสื้อผ้าจากชาวเขา
- ของที่ระลึกงานไม้แกะสลัก เครื่องเงิน และเซรามิกแบบล้านนา
- น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู และไส้อั่วรสเด็ด
|
18:00 น. |
ส่งลูกค้าสู่สนามบินเชียงใหม่ ปิดฉากการเดินทางสุดสนุกสนาน
ทีมงานของเราจะส่งท่านที่ สนามบินเชียงใหม่ พร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ก่อนที่เราจะกล่าวคำอำลา ด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ |
|
 |
 |
 |
 |
รายละเอียดราคา
ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา:“ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”
 |
ราคา |
 |
 |
ผู้ใหญ่ |
26,500 บาท/ท่าน (Double Room) |
เด็ก |
18,500 บาท/ท่าน (อายุ 3-10ขวบ) |
|
 |
 |
 |
 |
แพ็คเกจรวม:
- ทีมบริการ ส่วนตัว ที่ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน อันประกอบด้วย ทัวร์ไกด์ ผู้รอบรู้ และ Service Staff ทุกคนผ่านการอบรมการให้บริการระดับสูง
- คนขับรถ มารยาทเยี่ยม เชี่ยวชาญ และผ่านการอบรมการให้บริการระดับสูง พร้อมรถคันสะอาดเอี่ยม Stand By 24 ชั่วโมง ในระหว่างทริป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมทุกกรณี
- นำเที่ยวในแบบ Private 5 วันเต็ม
- ทุกกิจกรรม ที่รวมไว้ในโปรแกรม รวมค่าธรรมเนียมให้หมด
- ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกชน, รัฐ หรืออุทยานแห่งชาติ รวมให้ทั้งหมด
- ค่าอาหารครบทุกมื้อ
- ที่พัก ตามโปรแกรม 4 คืน ในรีสอร๋ทที่คัดเลือก ผ่านการตรวจเช็ค Top Hygiene (ไร้ฝุ่น ไร้ความชื้น และไร้กลิ่น)
- ประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ตลอด 5 วัน
โรงแรมที่สวยงาม - แม่สอด
The Monte Maesot – ที่พักเหนือระดับในเมืองชายแดนแม่สอด
การเลือกที่พักในเมืองแม่สอด ไม่ใช่แค่เรื่องของทำเลที่ตั้ง แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ แห่งความประทับใจ "The Monte Maesot" คือโรงแรมที่ถูกคัดสรรตามมาตรฐานสูงสุด Top Hygiene ของ JC Tour ผ่านเกณฑ์ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไร้ฝุ่น ไร้กลิ่น และไร้ความชื้น ให้ความสะอาดสมบูรณ์แบบ พร้อมการออกแบบที่สวยงาม และทันสมัย ทันทีที่คุณก้าวเข้าสู่โรงแรม จะสัมผัสได้ถึงความหรูหราสง่างาม ในสไตล์โมเดิร์นล้านนา ผสมผสานกับบรรยากาศสงบ ที่ให้คุณได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
ทำเลของ The Monte Maesot ตั้งอยู่ในจุด ที่สะดวกต่อการเดินสำรวจเมือง ไม่ว่าจะเป็น การเดินเล่นชมวิถีชีวิตท้องถิ่น หรือนั่งจิบกาแฟ ท่ามกลางบรรยากาศชายแดน ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ภายในห้องพัก ถูกออกแบบให้รองรับ ความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ครบครัน ทุกมุมของที่นี่ให้ความรู้สึกพิเศษ และความภูมิใจ ที่ได้มาพัก คืนหนึ่งที่ The Monte Maesot ไม่ใช่แค่การเข้าพักในโรงแรม แต่มันคือการได้สัมผัส คุณค่าของการเดินทางอย่างแท้จริง
The River Side Resort
Cottage on Riverside – พักผ่อนกลางธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ เติมเต็มความสุข
ในการเดินทางครั้งนี้ เราให้ความสำคัญกับ การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เพื่อให้คุณได้สัมผัส บรรยากาศ ที่เต็มไปด้วยออกซิเจนประจุลบ อันบริสุทธิ์ ซึ่งช่วยสร้างความสดชื่น กระตุ้นสมองส่วนสร้างสรรค์ และฟื้นฟูพลังให้กับร่างกาย และจิตใจ "Cottage on Riverside" คือที่พักที่ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำกลางเขตอุทยานแห่งชาติอุ้มผาง โอบล้อมด้วยป่าดิบชื้น อันสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางเสียงสายน้ำที่ไหลเอื่อย เสียงนกป่า และสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านตลอดทั้งวัน นี่ไม่ใช่แค่ที่พัก แต่เป็นสถานที่ ที่ช่วยขจัดทุกความเหนื่อยล้า และคืนความสมดุลให้กับชีวิต
ห้องพักแบบคอทเทจ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติ แต่ยังคงความสะดวกสบาย ระดับสูงสุด ด้วยมาตรฐาน Top Hygiene (ไร้ฝุ่น ไร้กลิ่น ไร้ความชื้น) ทุกมุมของรีสอร์ทสะอาดเอี่ยม พร้อมเตียงนอนแสนนุ่ม ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด สองคืนที่นี่ คือการปลดปล่อยความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ทิ้งทุกความเครียดไว้เบื้องหลัง คงเหลือไว้เพียง “ความสุข” และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงน้ำไหล สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม
Le Meridien Chiang Mai Night Bazaar..
Le Meridien Chiang Mai – มาตรฐานระดับโลก พร้อมทำเลที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อกล่าวถึง Le Meridien นักเดินทางทั่วโลก ต่างรู้ดีว่า "ความยอดเยี่ยม" ที่นี่ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นมาตรฐาน ที่ได้รับทุกครั้งที่เข้าพัก และในแพ็คเกจ Upper Class ของ JC Tour โรงแรมหรูแห่งนี้ ถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่ง ของประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่นี่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พัก แต่เป็นสถานที่ ที่สะท้อนถึงความพิเศษ และรสนิยม ของผู้เดินทาง
หนึ่งในเหตุผลสำคัญ ที่เราเลือก Le Meridien Chiang Mai คือ ทำเลที่ดีที่สุด ตั้งอยู่บน ถนนเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง ที่นักท่องเที่ยวทุกคน "ต้องไป" เมื่อมาเยือนเชียงใหม่ สะดวกสบายสำหรับการเดินเล่น ช้อปปิ้ง ลิ้มรสอาหาร และสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนของเมืองเหนือ ห้องพักได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา และลงตัว เพื่อให้การเข้าพัก เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ทริปนี้ถูกสร้างขึ้น สำหรับผู้ที่เห็นคุณค่าในโอกาส เวลา และประสบการณ์ที่มีความหมาย และ Le Meridien Chiang Mai คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับ "การเดินทางที่พิเศษอย่างแท้จริง"

ทำไมต้องเจซีทัวร์?
- เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
- เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
- เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
- จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click