Flowers on Hight 1600
แม่ฮ่องสอน + ปางอุ๋ง 3 วัน 2 คืน

ดอยแม่อูคอกับทุ่งดอกบัวตอง: ความงามเหนือระดับทะเลหมอก

บนระดับความสูงกว่า 1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล สายลมเย็นเฉียบ ที่โอบล้อมยอดดอยแม่อูคอ ทำให้ที่นี่ เป็นอาณาจักรแห่งความสดชื่น ตลอดทั้งปี และเมื่อฤดูหนาวมาเยือน อุณหภูมิที่ลดฮวบ จะเปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็น ดินแดนแห่งความหนาวเหน็บ แต่สิ่งที่ทำให้ดอยแม่อูคอ โดดเด่นยิ่งกว่าความหนาว คือทุ่งดอกบัวตอง ที่ทอดยาวสุดสายตากว่า 650 ไร่ จนกลายเป็นภาพมหัศจรรย์ ของสีเหลืองทองอร่าม ที่บานสะพรั่ง พร้อมกันในช่วงปลายปี ความงามที่สะกดทุกสายตา และกระชากใจผู้มาเยือน จนต้องร้องว่า "Big Wow"

และหากพูดถึงมนต์เสน่ห์ของภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน ย่อมติดโผในอันดับต้น ๆ ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ ราวกับมีออกซิเจน มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์เสียอีก ที่นี่ทุกอณูของธรรมชาติ เปรียบเสมือนสปาบำบัด ที่เยียวยาประสาทสัมผัสทั้งสี่ กลิ่นหอมของป่าเขา เสียงสายลมและน้ำตก รูปทิวทัศน์ที่ตระการตา และรสชาติอาหารพื้นเมือง ที่อร่อยล้ำ เมื่อทั้งหมดนี้รวมกัน แม่ฮ่องสอนจึงเป็น มากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นประสบการณ์ ที่ปลุกทุกประสาทสัมผัส ให้ตื่นขึ้นมารับความสุขอย่างเต็มเปี่ยม

โปรดอย่ารีบร้อนตัดสินใจ หากยังไม่ได้สัมผัสรายละเอียด ของทริปนี้อย่างครบถ้วน ทุกวินาทีของการเดินทาง ถูกออกแบบมา ให้เป็น ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ ที่ควรค่าแก่การพิจารณาก่อนจอง เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่ทัวร์ทั่วไป แต่คือการเดินทาง ที่เหนือระดับ

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

650 ไร่ เหนือน้ำทะเลบนความสูง 1600 เมตร

ดอยแม่อูคอ คืออาณาจักรแห่งสีทอง ที่แต่งแต้มขุนเขา ด้วยทุ่งดอกบัวตองอันกว้างใหญ่ บานสะพรั่ง พร้อมกัน ราวกับพรมสีทองที่ทอดยาวสุดสายตา ความงามละลานตานี้ ยิ่งทวีคูณ เมื่ออาบไล้ด้วยแสงแรกของวัน แต่ถึงแม้จะมาเยือน ในช่วงที่ดอกไม้ยังไม่ผลิบาน ที่นี่ก็ยังคงมนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ด้วยพรมใบสีเขียวขจี ที่ตัดกับม่านหมอกบางเบา ซึ่งล่องลอยไปตามแนวเขา ให้ความรู้สึกเงียบสงบ และลึกลับน่าค้นหา และเมื่อยืนอยู่บนจุดชมวิว สูงสุดของดอย มองออกไปรอบทิศ ความงดงามของธรรมชาติ ที่รายล้อมทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ตื่นตัวพร้อมกัน กลิ่นหอมเย็นของไอหมอก สายลมที่พัดผ่านผิวกาย เสียงแว่วของธรรมชาติ ภาพขุนเขาสลับซับซ้อน และรสชาติของอากาศบริสุทธิ์ ที่สูดเข้าเต็มปอด ทุกสิ่งรวมกันเป็นประสบการณ์ ที่ไม่เพียงแค่ชื่นชมด้วยสายตา แต่ซึมซับเข้าถึงจิตวิญญาณ ของผู้มาเยือน

สะพานไม้ไผ่ ซูต้องเป๋..

สะพานไม้ไผ่แห่งนี้ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความโอ่อ่า หรือเป็นอนุสรณ์ใด ๆ แต่เกิดจากแรงศรัทธา อันบริสุทธิ์ของชาวบ้าน ที่ต้องการสร้างบุญ ด้วยภูมิประเทศ ที่แยกวัดบนดอย ออกจากหมู่บ้านด้านล่าง ถูกกั้นกลางด้วยท้องนาเขียวขจี สายน้ำลำคลอง และแนวป่าเขา ทำให้การเดินทางของพระสงฆ์ เพื่อบิณฑบาตเป็นเรื่องลำบาก ผู้ศรัทธาจึงร่วมแรงร่วมใจ สร้างสะพานบุญ เพื่อให้พระภิกษุ สามารถเดินทางมารับบิณฑบาต จากชาวบ้านได้สะดวกขึ้น แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ แรงศรัทธานี้ กลับนำพาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า มาสู่ชุมชน เพราะสะพานไม้ไผ่เส้นนี้ ไม่ได้เป็นเพียงทางเดินของพระเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเส้นทางแห่งการท่องเที่ยว ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ให้มาเยี่ยมชม วิวท้องนาอันเงียบสงบ สะพานไม้ที่ทอดยาว กลางสายหมอกยามเช้า และบรรยากาศที่แฝงไปด้วยพลังศรัทธา ทำให้ที่นี่กลายเป็น สถานที่อันทรงคุณค่า ในมิติที่เกินกว่าการสร้างบุญ ผลพลอยได้ที่เกิดขึ้น คือรายได้อันมหาศาล จากการท่องเที่ยว ที่หลั่งไหลเข้ามาสู่ชุมชน ผู้คนได้งาน ได้อาชีพ ได้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งหมดนี้เริ่มต้น จากเจตนาเพียงข้อเดียว "แค่สร้างเพื่อสร้างบุญ แต่กลับรวยซะงั้น"

วัดจองคำ จองกลาง...

หลายคนคิดว่า เรื่องศาสนาเป็นเรื่องเคร่งขรึม ไร้สีสัน แต่แท้จริงแล้ว มันกลับเต็มไปด้วยปริศนา ซ่อนเงื่อน และความลึกซึ้ง ที่รอให้ผู้สนใจได้ค้นพบ เมื่อเข้าใจในแก่นแท้ มันกลับกลายเป็น เรื่องที่น่าตื่นเต้น และสนุกไม่แพ้ศาสตร์อื่น ๆ เพราะศาสนา ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำสอน แต่เป็นภูมิปัญญา ที่สอดแทรกศิลปะ วัฒนธรรม และปรัชญา ที่เชื่อมโยงกับชีวิตมนุษย์อย่างแนบแน่น เช่นเดียวกับเรื่องราว ของ วัดจองคำและวัดจองกลาง ที่ซ่อนความน่าสนใจไว้อย่างน่าทึ่ง เพราะแม้จะตั้งอยู่ใกล้กัน แต่ทั้งสองวัด กลับเป็นคนละวัด คนละสถาปัตยกรรม คนละวัฒนธรรมอย่างสิ้นเชิง วัดจองคำโดดเด่นด้วยศิลปะแบบไทยใหญ่ ส่วนวัดจองกลาง สะท้อนความงดงามในแบบล้านนา ราวกับเป็นการประชันศิลปะ ที่สวยสะกดตา

แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความแตกต่าง คือความเข้าใจ ในเป้าหมายสูงสุดของศาสนา ซึ่งอยู่เหนือข้อปลีกย่อย ของรูปแบบ และวัฒนธรรม ทำให้ทั้งสองวัด อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ถ่ายทอดงานศิลป์และจิตวิญญาณ ผ่านสิ่งปลูกสร้างได้อย่างลงตัว จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดผู้คน ให้เข้ามาสัมผัส และตื่นตะลึงไปกับความงาม ที่แฝงไว้ด้วยสัจธรรม ท่านลูกค้าจะได้ไปเยี่ยมชม และสัมผัสความยิ่งใหญ่นี้ ด้วยตาตัวเองแน่นอน ยืนยันได้เลยว่า คุณจะต้องว้าวไปยาว ๆ

ปางอุ๋ง "ความรู้สึก ซีซ่าร์ถึงบ้านแล้ว"

ปางอุ๋ง: ดินแดนแห่งหมอก สายน้ำ และป่าสน

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียน อยู่กลางป่าสนแน่นขนัดแห่งนี้ คือ ปางอุ๋ง สถานที่ที่ธรรมชาติรังสรรค์แลนด์สเคป ได้อย่างร้ายกาจ จนเกินบรรยาย ทุกสิ่งที่นี่ล้วนเป็นของขวัญจากธรรมชาติ ทะเลน้ำจืดที่เงียบสงบ สะท้อนเงาของป่าสนสูงเสียดฟ้า อากาศที่เย็นสดชื่น ลอยปกคลุมตลอดปี และไฮไลต์สำคัญ ที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องตกตะลึง คือทะเลหมอกหนาเตอะ ที่โอบคลุมทั่วผืนน้ำในยามเช้า ทุกสรรพชีวิต ที่อยู่ที่นี่ ต่างโหยหาแสงแดดยามเช้า ให้คลายความหนาวยะเยือก ความงดงามเหล่านี้มีราคา เพราะการเดินทางมายังปางอุ๋ง ไม่ใช่เรื่องง่าย ถนนแคบลดเลี้ยวไปตามไหล่เขา ผ่านป่าสนหนาทึบ แต่เมื่อไปถึงแล้ว ทุกคนจะเข้าใจ ความรู้สึกเดียวกับ ซีซาร์ (ตัวเอกจาก Planet of the Apes) ที่เมื่อทอดสายตา ผ่านทะเลสาบ และแหงนหน้า มองป่าสนอันสมบูรณ์แบบ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา เป็นภาษาคนว่า "ซีซ่าร์ถึงบ้านแล้ว" และเพื่อให้สัมผัสมนต์เสน่ห์ ของปางอุ๋งอย่างเต็มที่ ท่านจะได้ล่องแพไม้ไผ่ ชมรอบทะเลสาบแบบใกล้ชิด ทั้งหมดนี้ รวมอยู่ในโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสัมผัสความว้าวนี้ด้วยตัวเอง

บ้านรักไทย - ไม่ใช่สวิสเซอร์แลนด์ เราเหนือกว่า

บ้านรักไทย: ดินแดนหมอกขาว ไร่ชา และความสดชื่นที่เหนือกว่าสวิตเซอร์แลนด์

ที่นี่ไม่ใช่ "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" เพราะมันพิเศษกว่านั้นมาก บ้านรักไทยซ่อนตัว อยู่ท่ามกลางขุนเขา ที่แข่งกันเขียวชอุ่ม โอบล้อมทะเลสาบ ที่เงียบสงบด้วยไร่ชา และสวนผักสีเขียวชอุ่ม ที่เรียงตัวไปตามแนวเนินเขา แทรกด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศที่นี่ถูกแต่งเติม ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ด้วยม่านหมอกขาว ที่ปกคลุมอยู่แทบตลอดวัน อากาศเย็นฉ่ำ ไม่ได้มาเพียงแค่ความรู้สึก แต่ยังเต็มไปด้วย "อิออนประจุลบ" ที่ช่วยให้ทุกลมหายใจสดชื่น จนซึมลึกถึงแก่นสมอง ทุกย่างก้าวที่เดินไปรอบทะเลสาบ เสียงฝีเท้า ที่ย่ำไปบนพื้นดินชื้นหมอก ความเงียบสงบที่มีเพียงสายลมอ่อน ๆ พัดผ่าน และในมือหากมี กาแฟร้อน ๆ สักแก้ว เติมเต็มช่วงเวลา แห่งความสุข นี่ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการปลดปล่อยตัวเอง ให้หลุดพ้นจากความวุ่นวาย สู่อ้อมกอดของธรรมชาติ ที่แท้จริง

ใครกันที่บังอาจนำ "สวิตเซอร์แลนด์" มาเทียบกับ บ้านรักไทย เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่ขุนเขา ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่เย็นจนไร้ชีวิตชีวา แต่คือดินแดนแห่งความเขียวขจี ที่ถูกแต่งแต้มด้วยม่านหมอกสีขาว อย่างลงตัว ไม่มีความหนาวเสียดกระดูก มีเพียงอากาศที่เย็นสดชื่น กำลังดี มีหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ที่สร้างกลมกลืนไปกับธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ที่สื่อถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิมของผู้คน ที่ยังคงมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย บ้านรักไทย ไม่ได้มีแค่ความงามของทิวทัศน์ แต่มันคือ ความรู้สึก ที่สัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์ ทั้งในอากาศ ธรรมชาติ และจิตใจของผู้มาเยือน ถ้าคุณเคยคิดว่า สวิตเซอร์แลนด์ คือที่สุดของธรรมชาติ ลองมาที่นี่ แล้วคุณจะเข้าใจว่า บ้านรักไทย สวยกว่าสวิสไปเยอะเลยครับ

ดอกไม้และปืนกล... ร่องรอยของนางฟ้า กับปีศาจ

ขุนยวม: ดินแดนแห่งความงามและร่องรอยแห่งอดีต

ที่ขุนยวม มีสองเรื่องราวที่แตกต่างกัน อย่างสุดขั้ว ความงามของทุ่งดอกบัวตอง ที่เบ่งบานราวกับนางฟ้าปรากฏบนยอดดอย และร่องรอยแห่งอดีต ที่ทิ้งไว้โดยสงคราม ณ อนุสรณ์สถานไทย-ญี่ปุ่น ในช่วงเวลา ที่ดอกบัวตองบานสะพรั่งเต็มผืนดอย ภาพที่ปรากฏตรงหน้า ช่างงดงามจนเกินกว่าคำว่า "สวยที่สุด" จะสามารถอธิบายได้ ทุกอณูของขุนเขา ถูกแต่งแต้ม ด้วยสีทองอร่าม ไล่ระดับไปตามแนวเขา ทอดตัวยาวสุดสายตา ท่ามกลางสายหมอก ที่ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ ความงามนี้ ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้หมด ท่านต้องไปสัมผัส และค้นหาคำอธิบายของตัวเอง

แต่หากย้อนเวลากลับไป เมื่อหลายสิบปีก่อน ณ ดินแดนเดียวกันนี้ ความงามไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึง เพราะขุนยวม เคยเป็นพื้นที่ที่ซ่อนเร้น ร่องรอยของสงครามอันขมขื่น มีเพียงผู้ที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นเท่านั้น ที่เข้าใจว่าความโหดร้าย ของสงครามนั้นหนักหนา ยิ่งกว่าอกหักหลายเท่านัก อนุสรณ์สถานไทย-ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงอดีตที่ไม่ควรถูกลืม ทัวร์ไกด์ของเราจะพาท่าน ย้อนเวลากลับไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ บางสิ่งอาจไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนอยากรู้ แต่บางที สิ่งที่ท่านได้เรียนรู้จากที่นี่ อาจเปลี่ยนมุมมองของท่าน ไปตลอดกาล

หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว + สะพานข้าว 9 เป็นสุข ที่บ้านผาบ่อง....

สัมผัสวิถีแม่ฮ่องสอนผ่านชนเผ่าและท้องทุ่งนา

หากต้องการเข้าใจแม่ฮ่องสอน อย่างแท้จริง ไม่มีอะไรสะท้อนวิถีชีวิตของที่นี่ ได้ดีไปกว่าการได้สัมผัส สองสิ่งสำคัญ ชนเผ่าพื้นเมือง และอาชีพดั้งเดิม ของผู้คน หมู่บ้านชนเผ่าคอยาว (Long Neck) คือหนึ่งในจุดหมาย ที่ทริปนี้เลือกพาท่านไปเยือน ท่ามกลางชนเผ่าหลากหลาย ที่อาศัยอยู่ในแม่ฮ่องสอน กลุ่มชาวปะด่อง หรือชนเผ่าคอยาว มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทั้งในด้านวัฒนธรรม การแต่งกาย และวิถีชีวิตที่ยังคงรักษา ความเป็นดั้งเดิม ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง การได้เดินเข้าไป ในหมู่บ้าน สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และฟังเรื่องราว ที่แฝงไปด้วยภูมิปัญญาของพวกเขา เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ เข้าใจถึงความงดงาม ของความหลากหลายทางวัฒนธรรม

อีกหนึ่งภาพสะท้อน ที่งดงามของแม่ฮ่องสอน คือ ท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ของอาชีพดั้งเดิมของผู้คนที่นี่ นาขั้นบันได ที่ไล่ระดับไปตามแนวเขา ทอเป็นผืนพรมสีเขียวในช่วงฤดูปลูก และเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ในฤดูเก็บเกี่ยว ทุกอย่างถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา และสายหมอก ทำให้ทุกมุมของแม่ฮ่องสอน เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเงียบสงบ การได้เดินทอดน่องไปตามคันนา มองดูชาวนาก้มหน้าก้มตาทำงาน อย่างขยันขันแข็ง สัมผัสสายลมเย็นที่พัดผ่านใบข้าว และซึมซับความสงบจากธรรมชาติ คือประสบการณ์ที่ทำให้เข้าใจว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แค่ เรียนรู้ ซึมซับ และมีความสุข เท่านั้นเอง

ภูชี้เพ้อ...ตอนเช้าตรู่

ดอยชี้เพ้อ: เส้นทางแห่งความสุขและวิวกระชากใจ

การเดินทางสู่ดอยชี้เพ้อ ไม่ได้เริ่มต้นเพียงแค่ปลายทาง แต่มันสนุกตั้งแต่ก้าวแรก ที่ออกเดินทาง เพราะเส้นทางที่ทอดยาว ไปสู่ยอดดอย พาเราผ่าน ดอยแม่อูคอ จุดหมายที่เต็มไปด้วย มนต์เสน่ห์ของทุ่งดอกบัวตอง หากมาในฤดูที่มันบานสะพรั่ง สีทองอร่ามจะปกคลุมทั่วทั้งขุนเขา แต่หากเป็นช่วงอื่นของปี ก็ยังคงงดงาม ด้วยแนวต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้ป่าหลากสี และบรรยากาศบริสุทธิ์ตลอดเส้นทาง ทุกโค้ง ทุกเนิน ล้วนเป็นฉากที่ธรรมชาติ บรรจงแต่งแต้มไว้ให้ผู้เดินทาง ได้ชื่นชม

และเมื่อถึงจุดสูงสุดของดอย นี่คือช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย ทะเลหมอกสุดหนาแน่น ลอยละล่องปกคลุมไปทั่วดอย ราวกับม่านขาวที่ห่มคลุมขุนเขา และเมื่อแสงแรกของวัน ค่อย ๆ สาดส่องผ่านม่านหมอก มันจะค่อย ๆ จางลง เผยให้เห็นภาพของธรรมชาติ ที่งดงามจนแทบหยุดหายใจ ทิวเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวไกลสุดสายตา ท้องฟ้าไล่เฉดสีอ่อนจรดเข้ม และสายลมเย็น ที่พัดผ่านให้ความรู้สึกเหมือน ยืนอยู่บนขอบสวรรค์ ถามว่าสวยกระชากใจไหม? ใช่! กระชากใจสุด ๆ ไม่มีคำพูดไหน จะบรรยายได้ดีไปกว่า การมาเห็นด้วยตาตัวเอง

	โปรแกรม:
	วันที่ 1: สัมผัสวัฒนธรรม และเสน่ห์เมืองสามหมอก 15:00 น. เครื่องบิน แตะรันเวย์สนามบินแม่ฮ่องสอน จุดหมายปลายทาง ที่มีเที่ยวบินตรง เพียงเที่ยวเดียวของวัน ทันทีที่ท่านลงจากเครื่อง ทีมทัวร์ไกด์ คนขับรถ และ Crew พร้อมให้การต้อนรับ ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น หลังจากแนะนำตัวกันเรียบร้อย ทัวร์ไกด์และทีมงาน ช่วยดูแลสัมภาระของท่านขึ้นรถ เตรียมพร้อมสู่การเดินทางสุดพิเศษ 16:00 น. หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า เดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิต ของชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียม และวิถีชีวิตดั้งเดิม ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ท่านจะได้เดินชมหมู่บ้าน ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรไมตรี สำรวจผลิตภัณฑ์ทำมือ ที่พวกเขาตั้งใจสร้างขึ้น และเรียนรู้วัฒนธรรม ผ่านมุมมองของผู้คน ที่อาศัยอยู่ที่นี่ สะพานข้าวเก้าเพื่อสุข บ้านผาบ่อง จุดหมายต่อไปคือ บ้านผาบ่อง เดินทอดน่องไปบน สะพานข้าวเก้าเพื่อสุข ที่ทอดข้ามท้องนา และแม่น้ำสายเล็ก ๆ ชมวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน ที่ใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับธรรมชาติ วัดจองคำ วัดจองกลาง สองวัดที่ตั้งอยู่เคียงกัน แต่โดดเด่นด้วยศิลปะ คนละวัฒนธรรม วัดจองคำ สะท้อนศิลปะแบบไทยใหญ่ ขณะที่ วัดจองกลาง แสดงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมล้านนา ความแตกต่างนี้ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้วัดทั้งสองแห่ง น่าค้นหา และเต็มไปด้วยเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์ ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม 17:45 น. นมัสการพระธาตุดอยกองมู & ชมพระอาทิตย์ตก เดินทางขึ้นสู่จุดชมวิว ที่งดงามที่สุด ของเมืองแม่ฮ่องสอน พระธาตุดอยกองมู สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง และปล่อยใจไปกับวิวสุดอลังการ ที่สามารถมองเห็นเมืองเล็ก ๆ ริมทุ่งนาและแม่น้ำ ที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา ไฮไลต์ของช่วงเวลานี้ คือการนั่งชมพระอาทิตย์ตก ที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า ทิ้งแสงสุดท้าย สะท้อนท้องฟ้าเป็นสีส้มอมทอง ภาพที่งดงาม จนแทบหยุดหายใจ 18:30 น. Check-in ที่ The Imperial Resort แม่ฮ่องสอน เข้าพักที่ รีสอร์ทระดับพรีเมียม ที่ดีที่สุดในเมือง ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ห้องพักหรูสะอาดสะอ้าน พร้อมวิวธรรมชาติที่งดงาม รับประทานอาหารเย็น ลิ้มลองเมนูพื้นเมือง และอาหารเหนือแท้ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย ผ่อนคลายกับรสชาด ที่เป็นเอกลักษณ์ของแม่ฮ่องสอน เดินชมถนนคนเดินเมืองแม่ฮ่องสอน ปิดท้ายวันแรก ด้วยการเดินเล่นใน ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน สัมผัสเสน่ห์ของเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าทำมือ ของฝากพื้นเมือง และอาหารท้องถิ่น ที่สะท้อนวิถีชีวิตเรียบง่าย ของผู้คนที่นี่ เพลิดเพลินไปกับแสงไฟยามค่ำคืน และกลิ่นอายของเมือง ที่ยังคงรักษาความดั้งเดิม ไว้อย่างสมบูรณ์ คืนแรกที่แม่ฮ่องสอน จบลงด้วยความประทับใจ พร้อมเก็บแรงไว้สำหรับการผจญภัย ในวันถัดไป วันที่ 2: สัมผัสมนต์เสน่ห์ปางอุ๋ง บ้านรักไทย และเส้นทางวัฒนธรรมขุนยวม 05:30 น. เช้าวันนี้ต้องเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ ทัวร์ไกด์ปลุกท่านขึ้นมา สู่เช้าที่สดชื่น พร้อม Check-out ออกจากรีสอร์ท มุ่งหน้าสู่ ปางอุ๋ง จุดหมายที่ทำให้ทุกคน ต้องตื่นเช้าอย่างเต็มใจ เพราะนี่คือ "Fog on the water" โมเมนต์ที่ทะเลสาบ ถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวหนาทึบ ลอยเอื่อยเหนือผืนน้ำ อย่างเงียบสงบ และเมื่อแสงแรกของวัน ค่อย ๆ เฉิดฉาย สะท้อนลงบนพื้นน้ำ ระยิบระยับราวกับภาพฝัน นี่คือช่วงเวลา ที่ธรรมชาติมอบให้…และมีเพียงผู้ที่มาเยือนเท่านั้น ที่จะได้สัมผัส 07:00 น. เดินทางถึง Lakeside Village บ้านรักไทย หมู่บ้านกลางหุบเขา ที่ล้อมรอบด้วยไร่ชา เขียวขจี ตื่นตาไปกับวิวของทะเลสาบ สะท้อนเงาภูเขา และสัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนยูนนาน อย่างแท้จริง เช้านี้พิเศษสุด ๆ เพราะท่านจะได้รับประทาน อาหารเช้าในภัตตาคารริมทะเลสาบ พร้อมจิบชาร้อน ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ และดื่มด่ำกับบรรยากาศ ที่หาไม่ได้จากที่ไหน 09:30 น. เดินทางสู่ สะพานซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาว เหนือท้องนาและลำธาร สร้างขึ้นจากแรงศรัทธา ของชาวบ้าน เพื่อให้พระภิกษุและเณร สามารถเดินข้ามมาบิณฑบาตร ในหมู่บ้านได้ เส้นทางทอดยาวแห่งศรัทธานี้ ไม่ได้มีเพียงความงดงาม ทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงจิตใจอันดีงาม ของชุมชน ที่นี่เราจะขึ้นไป ทำบุญที่วัดบนดอย เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางต่อ เดินทางสู่เมืองขุนยวม – เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว วัดต่อแพ วัดเก่าแก่ที่สะท้อนศิลปะแบบไทยใหญ่ ที่มีความเรียบง่ายแต่งดงาม 12:00 น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคารในเมืองขุนยวม ช่วงบ่าย ตามรอยประวัติศาสตร์และธรรมชาติ อนุสรณ์สถานไทย-ญี่ปุ่น สถานที่บอกเล่าเรื่องราวของขุนยวม ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 นาขั้นบันไดวัดต่อแพ ชมภาพนาข้าว ที่ไล่ระดับตามแนวเขา ตัดกับท้องฟ้า และภูเขาอย่างลงตัว บ้านเมืองปอน หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และมีสถาปัตยกรรม แบบไทใหญ่ให้ชม วัดมวยต่อ วัดที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งความสงบ 17:00 น. Check-in ที่ Resort of Khunyuam.Doi รีสอร์ทที่ซ่อนตัวอยู่กลางขุนเขา ให้บรรยากาศของธรรมชาติ แบบดิบ ๆ โอบล้อมไปด้วยป่าไม้ ทิวเขา และความเงียบสงบ ที่ช่วยให้ร่างกาย และจิตใจ ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง 18:00 น. รับประทานอาหารเย็นที่รีสอร์ท ลิ้มรสอาหารอร่อย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย สายลมพัดโชยอ่อน ๆ พร้อมเสียงธรรมชาติ ขับกล่อม   ปิดท้ายค่ำคืนสุดพิเศษ นั่งรับลม ชมดาวเต็มท้องฟ้า จากระเบียงห้องพัก สัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์ และความเงียบสงบ ของคืนที่ขุนยวม ความงามที่ไม่ต้องการคำอธิบาย เพียงแค่นั่งนิ่ง ๆ และปล่อยให้ธรรมชาติ โอบกอดหัวใจของคุณ... คืนเดียว แต่ความสุขเต็มเปี่ยม พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ทัวร์ไกด์ได้ปลุกท่านลูกค้า แต่เช้า วันที่ 3: เช้าหมอก ทุ่งบัวตอง และปิดท้ายด้วยธรรมชาติ 07:00 น. ตื่นเช้ารับอากาศบริสุทธิ์ พร้อมรับประทานอาหารเช้าอร่อย ๆ เติมพลังสำหรับวันสุดท้าย ของการเดินทาง 08:00 น. ดอยชี้เพ้อ ยอดดอยแห่งสายหมอก ออกเดินทางสู่ดอยชี้เพ้อ จุดชมวิวสุดมหัศจรรย์ ที่ต้องมาเยือนให้ได้ในยามเช้า ไฮไลต์ของที่นี่ คือทะเลหมอกหนาทึบ ที่ตัดกับแสงแรกของวัน แสงอาทิตย์ค่อย ๆ ฉายลงบนไอหมอก เปลี่ยนให้กลายเป็นภาพที่งดงาม เกินบรรยาย เมื่อหมอกค่อย ๆ จางลง ผืนป่าสีเขียวขจีของขุนเขา ก็เริ่มเผยโฉม ความงดงามของธรรมชาติ ณ จุดนี้ ทำให้ทุกสายตา ที่มองต้องตื่นตะลึง 09:00 น. ดอยแม่อูคอ อาณาจักรดอกบัวตอง เดินทางสู่ดอยแม่อูคอ ดินแดนแห่งทุ่งดอกบัวตอง ที่สวยที่สุดในประเทศไทย พื้นที่กว่า 500 ไร่ บนภูเขาสูง ที่ปกคลุมไปด้วยสีเหลืองทองอร่าม ของดอกบัวตอง ที่บานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตา เมื่อมองลงไปจากยอดดอย จะพบกับภาพของขุนเขา ที่ไล่ระดับสลับซับซ้อน ทอดตัวอยู่เหนือระดับน้ำทะเล กว่า 1600 เมตร นี่คือภาพที่สะกดทุกสายตา และเป็นจุดหมาย ที่ทำให้หลายคน ต้องกลับมาเยือนซ้ำ 11:00 น. กลับสู่รีสอร์ท อาบน้ำ และ Check Out เดินทางกลับที่พัก เพื่ออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมตัวเช็กเอาต์ อำลารีสอร์ท ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข และความทรงจำ 12:30 น. รับประทานอาหารเที่ยง ปิดท้ายมื้ออาหาร สุดท้ายในทริป ด้วยเมนูอร่อย ๆ ที่ให้คุณได้ลิ้มรส ความเป็นแม่ฮ่องสอน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินทางกลับ 14:00 น. ถ้ำปลา สัมผัสธรรมชาติและความอัศจรรย์ ก่อนเดินทางกลับ แวะที่ถ้ำปลา สถานที่ธรรมชาติอันเงียบสงบ ที่เต็มไปด้วยฝูงปลาขนาดใหญ่ แหวกว่ายอยู่ในแอ่งน้ำใส กลางป่าอันร่มรื่น เดินเล่นสัมผัสธรรมชาติ เป็นช่วงเวลาสุดท้าย ของทริป 15:00 น. ส่งท่านลูกค้าที่สนามบินแม่ฮ่องสอน เดินทางสู่สนามบินแม่ฮ่องสอน เตรียมตัวขึ้นเครื่องกลับ พร้อมภาพความทรงจำที่สวยงาม จากดินแดนแห่งขุนเขา และสายหมอก จบทริปแม่ฮ่องสอนอย่างงดงาม และความทรงจำ ที่ประทับอยู่ในหัวใจของคุณ ตลอดไป

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา: “ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 12,500 บาท/ท่าน (Double Room) เด็ก 8,500 บาท/ท่าน (อายุ 3-10ขวบ)

แพ็คเกจนี้รวม:

• รถรับส่ง จากสนามบินแม่ฮ่องสอน
• รถนำเที่ยวในแบบ Upper Class ส่วนตัวตลอดทริป
• รถพร้อมคนขับ Stand By 24 ชั่วโมง (เรียกใช้ฉุกเฉินได้ตลอดเวลา ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
• ทัวร์ไกด์ ต้อนรับ ดูแล แนะนำ และ Stand By 24 ชั่วโมง (พร้อมรับใช้ในทุกๆ เหตุฉุกเฉิน ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
• ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่ท่องเที่ยวทุกที่ ในโปรแกรม
• อาหารครบทุกมื้อ
• ประกันภัยเต็มช่องทางในแบบ นักท่องเที่ยว

ที่พัก..ที่ทำให้หัวใจสดชื่น

Resort of Khunyuam: คืนเดียว...แต่ความสุขเต็มหัวใจ

บนเชิงเขา ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ Resort of Khunyuam คือสถานที่ที่ความงาม ของขุนเขา ท้องฟ้า และสายหมอก มาบรรจบกันอย่างลงตัว ไม่ว่าช่วงเวลาใด วิวที่นี่ ก็ชวนให้ต้องมนต์สะกด ยามค่ำคืนแหงนหน้าขึ้นฟ้า จะพบกับ แสงดาวระยิบระยับ ที่ส่องประกายเต็มผืนฟ้า เสียงแห่งป่าธรรมชาติ ดั่งดนตรีบรรเลงคลอเบา ๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น สดชื่น ที่โอบล้อมร่างกายไว้ ราวกับอ้อมกอดของธรรมชาติ ตื่นเช้ามา สายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่ง คลอเคลียยอดไม้ ขณะที่ดอกไม้รอบรีสอร์ท ผลิบาน ต้อนรับวันใหม่อย่างงดงาม

แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติ ห้องพักทุกหลัง ออกแบบมาเพื่อมอบความสบายสูงสุด แก่ผู้เข้าพัก ทุกมุมได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม อบอุ่น สะอาด และเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศ แห่งการพักผ่อน ที่แท้จริง ที่นี่คือสถานที่ที่ทำให้ ร่างกายและหัวใจ ล้วนเปี่ยมสุข แม้เพียงคืนเดียว.. .ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณ ตกหลุมรัก

The Imperial Resort ดีที่สุดเมืองแม่ฮ่องสอน

The Imperial Resort แม่ฮ่องสอน: ความสะดวกสบายท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ

หากการพักผ่อนที่แท้จริง คือการได้หลีกหนีความวุ่นวาย และปล่อยตัวเอง ให้ซึมซับความงามของธรรมชาติ The Imperial Resort แม่ฮ่องสอน คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ รีสอร์ทระดับพรีเมียมแห่งนี้ มาพร้อมกับความสะดวกสบาย ครบครัน ห้องพักสะอาดเอี่ยม ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกนาทีของการพักผ่อน เป็นช่วงเวลาที่พิเศษ ห้องพักแบบ Deluxe ที่เราจองไว้ให้ท่าน ถูกเลือกมาอย่างดีที่สุด ตั้งอยู่ในมุม ที่สามารถมองออกไป เห็นลำน้ำธรรมชาติทอดยาว พร้อมแนวภูเขาเขียวขจี ที่กอดล้อมรีสอร์ทเอาไว้ สร้างบรรยากาศแห่งความสงบ ผ่อนคลาย และสดชื่น จนสัมผัสได้

มั่นใจได้ว่า ท่านลูกค้าจะได้รับความสุข จากการพักผ่อน ในค่ำคืนนี้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย ของที่พักเท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ ของการตื่นขึ้นมา ในเช้าวันใหม่ ท่ามกลางสายหมอกบาง ๆ เสียงน้ำไหลแผ่วเบา และอากาศที่บริสุทธิ์ แบบที่หาไม่ได้ง่าย ๆ นี่คือเหตุผลว่าทำไม เจซีทัวร์ จึงเลือกที่นี่ ให้เป็นสถานที่พักของท่าน ในแพ็กเกจสุดพิเศษของเรา เพื่อให้คืนเดียวที่นี่... เป็นคืนที่น่าจดจำตลอดไป

---

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click